มีรายงานว่า หุ้นของบริษัทอเมริกัน เอาท์ดอร์ แบรนด์ คอร์ปอเรชั่น หรือชื่อเก่า สมิธ แอนด์ เวสสัน ผู้ผลิตปืนรายใหญ่ของสหรัฐฯ พุ่งขึ้นถึงร้อยละ 7 อยู่ที่ 16.32 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อวันที่ 2 ต.ค.2560 หลังเกิดเหตุกราดยิงฝูงชนในงานคอนเสิร์ตกลางแจ้งที่เมืองลาสเวกัส รัฐเนวาดา จนทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 59 คน และเมื่อวันที่ 4 ต.ค.2560 หุ้นของบริษัทนี้ก็ปรับเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 5.5 จากราคาปิดที่ 15.255 ก่อนหน้าเหตุกราดยิง
ขณะที่หุ้นของบริษัทสเทิร์ม รูเจอร์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งผู้ผลิตปืนรายใหญ่ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.5 เมื่อวันที่ 2 ต.ค.2560 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.5 ปิดที่ 53.05 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อวันที่ 4 ต.ค.2560
นอกจากนี้หุ้นของบริษัทโอลิน คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องกระสุนรายใหญ่ พุ่งสูงเช่นกัน โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.6 ปิดที่ 36.51 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อวันที่ 2 ต.ค.2560 และคงราคาซื้อขายเหนือระดับ 36 ดอลลาร์สหรัฐในอีกสองวันต่อมา
ทั้งนี้ จากข้อมูลทางประวัติศาสตร์ แสดงให้เห็นแนวโน้มปกติที่ราคาหุ้นปืนจะปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังเกิดเหตุสังหารหมู่จากอาวุธปืน เนื่องจากนักลงทุนต่างวิตกว่าจะมีการบังคับใช้กฎหมายควบคุมอาวุธปืนที่เข้มงวดยิ่งขึ้น ทำให้มีการเร่งซื้อปืนมาเก็บไว้