วันนี้ (11 ต.ค.2560) สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานพระราชานุญาตให้สำนักพระราชวัง จัดทำซุ้มประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บริเวณริมกำแพงพระบรมมหาราชวัง ระหว่างประตูวิเศษไชยศรีและประตูมณีนพรัตน์ เพื่อให้ประชาชนถวายสักการะต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ซุ้มประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์ เป็นซุ้มสีฟ้าสลับสีทอง ตรงกลางประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์ ส่วนด้านบนประดับพระมหาพิชัยมงกุฎ และพระปรมาภิไธย ภปร ด้านข้างประดับด้วยพุ่มทองทั้ง 2 ฝั่ง และด้านล่างประดับด้วยดอกดาวเรือง
ประชาชนสามารถถวายพวงมาลัยและดอกไม้ได้ ตั้งแต่ เวลา 08.00 ของวันที่ 11 ตุลาคมเป็นต้นไป และจะเปิดให้ประชาชนเข้ามาวางพวงมาลัยตลอด 24 ชั่วโมง แต่จะปิดในช่วงวันที่ 15 ,21 และ 22 ตุลาคม เนื่องจากทางกองอำนวยการร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จะทำการฝึกซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ
เตือนควรใช้วิจารณญาณในการถ่ายภาพ
นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการฝึกซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศเสมือนจริง ในวันที่ 21 ตุลาคมนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จพระราชดำเนินมาทรงร่วมซ้อมในริ้วขบวนด้วย ส่วนแนวทางปฏิบัติของประชาชนในการใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพการซ้อม และพระราชพิธีจริง โดยเฉพาะการถ่ายทอดสดผ่านแอปพลิเคชัน กรมประชาสัมพันธ์ขอให้สื่อมวลชนทุกแขนง งดเว้นการเผยแพร่ รวมถึงไม่แชร์ข้อมูลการถ่ายทอดสดผ่านแอปพลิเคชันด้วย เนื่องจากกังวลว่าอาจมีภาพไม่เหมาะสมถูกเผยแพร่ออกไป แต่สำหรับประชาชนทั่วไปให้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแต่ละบุคคล
เตรียมซ้อมยกพระนพปฎลมหาเศวตฉัตรพรุ่งนี้
ความคืบหน้าการจัดสร้างพระเมรุมาศ ขณะนี้ได้รื้อนั่งร้านพระเมรุมาศส่วนโครงสร้างภายในเกือบเสร็จทั้งหมดแล้ว ขณะที่บุษบกซ่างและบุษบกหอเปลื้อง ประดับยอดพุ่มข้าวบิณฑ์และตกแต่งภายในเสร็จแล้ว รวมถึงถอดรื้อนั่งร้านออกแล้วเช่นกัน คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในวันนี้แต่จะยังคงนั่งร้านที่โครงสร้างบุษบกองค์ประธานด้านนอกไว้ เพื่อเตรียมซักซ้อมยกพระนพปฎลมหาเศวตฉัตรในพรุ่งนี้ (12 ต.ค.) และ 17 ตุลาคม ก่อนมีพระราชพิธีจริงวันที่ 18 ตุลาคม
วันนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้เชิญทูตานุทูตประจำประเทศไทยพร้อมผู้ติดตาม เข้าเยี่ยมชมการจัดสร้างพระเมรุมาศและสิ่งปลูกสร้างประกอบ รวมถึงราชรถและพระยานมาศ ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ เพื่อเป็นการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโบราณราชประเพณี พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ โดยเริ่มตั้งแต่การนำชมโรงราชรถ ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร และภายในพื้นที่พระเมรุมาศท้องสนามหลวงโดยรอบ เบื้องต้น สถานเอกอัครราชทูตได้ตอบรับเข้าร่วมแล้ว 61 ประเทศ รวม 111 คน
จัดสร้างสถานที่เผาดอกไม้จันทน์เพิ่มเติม
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าการสร้างพระเมรุมาศจำลองในจังหวัดต่างๆ โดยระบุว่า ขณะนี้ทางกระทรวงมหาดไทยรายงานให้ทราบว่าดำเนินการแล้วเสร็จไปเกินกว่าครึ่งหนึ่ง และคาดว่าจะเสร็จตามกำหนดเวลา 15 ตุลาคม ซึ่งหน่วยงานที่รับผิดชอบจะรายงานชี้แจงขึ้นมาเป็นระยะ
นอกจากพระเมรุมาศจำลอง ขณะนี้ได้มีการจัดสร้างสถานที่เผาดอกไม้จันทน์ของประชาชนในทุกพื้นที่ เนื่องจากไม่สามารถนำไปเผาตามวัดต่างๆ ได้ ต้องจัดสร้างพิเศษขึ้นมาใหม่ เพราะสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชประสงค์ให้ประชาชนทุกคนได้มีโอกาสร่วมถวายพร้อมๆ กันในเวลาเดียวกับที่กรุงเทพฯ และในช่วงเวลากลางคืนด้วย