วันนี้ (12 ต.ค.2560) ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านเขตเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา หรือ เกาะเมือง เพิ่มระดับสูงขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้พื้นที่ลุ่มต่ำถูกน้ำท่วม โดยเฉพาะวัดกษัตราธิราชวรวิหาร ที่ตั้งอยู่บริเวณโค้งหัวแหลม น้ำทะลักเข้าท่วมพื้นที่ชั้นนอกของวัดบางส่วนที่อยู่ริมแม่น้ำ ทหารจากกองร้อยบรรเทาสาธารณภัยจากจังหวัดสระบุรี เร่งนำดินที่ใส่กระสอบทรายทำแนวกั้นสูงเกือบ 2 เมตร
ส่วนบริเวณโค้งน้ำฝั่งตรงข้ามวัดกษัตราธิราชวรวิหาร ถือเป็นพื้นที่จุดอ่อนไหวของเขตเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยาเช่นเดียวกัน เนื่องจากขณะนี้เหลือประมาณอีก 50 เซนติเมตรน้ำจะเสมอขอบตลิ่ง
วันนี้เขตเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ต้องทำคันดินให้สูงขึ้นอีก 1 เมตร ระยะทาง 1 กิโลเมตร เพื่อรอรับมวลน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา ที่คาดว่าจะเดินทางมาถึงในช่วงเย็น
ด.ต.สุรินทร์ ผดุงเพียร รองนายกเทศมนตรีเขตเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า มั่นใจว่าเกาะเมืองจะไม่ถูกน้ำท่วม หากไม่มีการพร่องน้ำมากกว่านี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พื้นที่อ่อนไหวของเกาะเมือง เขตเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา มี 4 จุด คือ วัดกษัตราธิราชวรวิหาร วัดหน้าพระเมรุ วัดไชยวัฒนาราม และป้อมเพชร ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ
นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า วันนี้ปริมาณน้ำที่จังหวัดนครสวรรค์จะสูงที่สุด จากน้ำเหนือที่หลากมาทางแม่น้ำปิง ประมาณ 2,700 - 2,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เมื่อแม่น้ำสะแกกรังไหลมาบรรจบแล้ว จะใช้เขื่อนเจ้าพระยาทดน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งเหนือเขื่อน ซึ่งขณะนี้นำเครื่องผลักดันน้ำ เครื่องสูบน้ำ เร่งระบายน้ำออกเพื่อเพิ่มปริมาณการรับเข้า
สำหรับการระบายน้ำออกท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จะคงไว้ที่ 2,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำและลำน้ำสาขาในจังหวัดชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา สูงขึ้น 50-80 เซนติเมตรเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ซึ่งได้แจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดท้ายเขื่อน เตือนประชาชนถึงระดับน้ำที่จะเพิ่มขึ้น