วันนี้ (13 ต.ค.2560) พล.ต.สันติพงษ์ ธรรมปิยะ รองแม่ทัพภาคที่ 1 เปิดเผยว่า ยอดผู้ร่วมริ้วขบวนพระราชอิสริยยศ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รวม 6 ริ้วขบวน 6,976 คน โดยกำลังพลผ่านการคัดเลือก พร้อมรับการอบรมจากสำนักพระราชวัง ซึ่งจะมีการซักซ้อมอีก 2 ครั้ง วันที่ 15 และ 21 ตุลาคมนี้
พล.ต.ต.มนตรี ยิ้มแย้ม รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า ในวันพระราชพิธีจริง 26 ตุลาคม จะมีการปรับจุดคัดกรองเป็น 29 จุด แยกเป็นชั้นนอกและชั้นใน ซึ่งชั้นใน 9 จุด ประกอบด้วยสะพานมอญ ท่าช้าง, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พระแม่ธรณีบีบมวยผม ถนนกัลยาณไมตรีที่ใกล้วัดราชบพิธ แยกพระเชตุพนฯ, ท่าเตียน ท่าพระจันทร์ และใต้สะพานพระปิ่นเกล้า ผู้ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดสามาถจอดรถและเปลี่ยนขึ้นชัตเตอร์บัสที่เตรียมไว้ 4 มุมเมืองของกรุงเทพฯ โดยจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบและเข้าพื้นที่ได้ในวันที่ 25 ตุลาคม เวลา 05.00 น.
นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดรอบพื้นที่สนามหลวง 1,177 ตัว เพื่อดูแลความปลอดภัย ส่วนการอำนวยความสะดวกด้านอาหาร, น้ำดื่ม และรถสุขา ทางกรุงเทพมหานครได้จัดเตรียมให้บริการกระจายไปยังพื้นที่โดยรอบสนามหลวง พร้อมขอความร่วมมือหน่วยงานต่างๆ รวมถึงประชาชนที่พักอาศัยโดยรอบเกาะรัตนโกสินทร์ เปิดให้ใช้บริการห้องน้ำ และเตรียมสถานที่พักค้างที่ศูนย์เยาวชนกรุงเทพไทย - ญี่ปุ่น, อินดอร์สเตเดียม หัวหมาก รวมถึงวัดและโรงเรียนบางแห่ง
นายณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ประชาชนที่จะเข้ามาบริเวณพระราชพิธีฯ ต้องพักผ่อนให้เพียงพอ พร้อมระบุโรคและยาประจำตัวในกรณีฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่ได้จัดหน่วยแพทย์ให้บริการโดยรอบพื้นที่รวม 21 จุดและบริเวณพระเมรุมาศจำลอง ซุ้มถวายดอกไม้จันทน์อีก 113 จุด เป็นทีมแพทย์เดินเท้าและรถพยาบาลกู้ชีพฉุกเฉิน รวมทั้งสามารถแจ้งเหตุผ่านเบอร์ฉุกเฉิน 1669 ได้