วันนี้ (29 ต.ค.2560) เวลา 10.43 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ ไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทรงจุดธูปเทียนถวายราชสักการะพระบรมอัฐิ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปประจําพระชนมวาร ที่หน้าพระแท่นมหาเศวตฉัตร พระสงฆ์ 30 รูปที่สวดพระพุทธมนต์ ก่อนถวายเพลพระทรงประเคนภัตตาหาร พระสงฆ์รับพระราชทานฉันแล้ว ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรม ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา
จากนั้นออกจากพระที่นั่ง ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม ทรงศีล พระราชาคณะถวายพระธรรมเทศนา จบ ถวายอนุโมทนา (บนธรรมาสน์) พระสงฆ์ 4 รูป รับอนุโมทนา ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์ แล้วทรงทอดผ้าไตร ถวายพระเทศน์และพระสงฆ์ที่รับอนุโมทนา รวม 5 รูป สดับปกรณ์ ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา ออกจากพระที่นั่ง พระสงฆ์ 89 รูป เท่าพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ขึ้นนั่งยังอาสน์สงฆ์สวดมาติกา ทรงทอดผ้าไตร พระสงฆ์สดับปกรณ์เป็นเที่ยวๆ จบครบ 89 รูป โดยเที่ยวแรก 12 รูป สดับปกรณ์ แล้วถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา เที่ยวต่อไปเที่ยวละ 11 รูป จํานวน 7 เที่ยว ขึ้นสดับปกรณ์แล้วลงจากพระที่นั่ง
เวลา 14.05 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ อัญเชิญพระโกศพระบรมอัฐิขึ้นประดิษฐาน ณ พระวิมาน บนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท โดยริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ริ้วขบวนที่ 5 ใช้กำลังพล 550 คน ระยะทาง 63 เมตร เจ้าพนักงานเทียบพระที่นั่งราเชนทรยานที่พระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาท ตั้งขบวนพระบรมราชอิสริยยศอัญเชิญพระโกศพระบรมอัฐิ โดยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ตามพร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ อัญเชิญพระโกศพระบรมอัฐิขึ้นประดิษฐานที่พระวิมาน บนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทเรียบร้อยแล้ว เสด็จพระราชดําเนินกลับ