วันนี้ (3 พ.ย.2560) นายพสุ โลหารชุน ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงกรณีบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด ยื่นให้ประเทศไทยเข้าสู่กระบวนการอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากคำสั่งหัวหน้า คสช. เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2559 ให้ระงับการอนุญาตและการทำเหมืองแร่ทองคำทั้งหมดในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว รวมทั้งกำหนดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดและจัดให้มีมาตรการเยียวยาแก้ไขผลกระทบด้านต่างๆ เนื่องจากมีประชาชนร้องเรียนการได้รับผลกระทบและคัดค้านการทำเหมือง ที่อาจทำให้สิ่งแวดล้อมปนเปื้อนมาเป็นเวลานาน
สำหรับการดำเนินการเบื้องต้นกระทรวงอุตสาหกรรม ได้เตรียมการระงับข้อพิพาทตามกระบวนการอนุญาโตตุลาการ เนื่องจากทั้งสองฝ่ายยังดำเนินการเจรจาเพื่อหาข้อยุติร่วมกันต่อไป และยืนยันว่ารัฐบาลไทย ยังไม่ได้ยอมรับข้อเรียกร้องของ บริษัท คิงส์เกต ในการขอดำเนินการทำธุรกิจเหมืองแร่ทองคำต่อไปแต่อย่างใด
การเข้าสู่กระบวนการระงับข้อพิพาทนี้เป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติตามพันธกรณี ภายใต้ความตกลงการค้าเสรีระหว่างไทย-ออสเตรเลีย หรือ ทาฟต้า ซึ่ง บริษัท คิงส์เกต ประเทศออสเตรเลีย ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด มหาชน ซึ่งถือประทานบัตรเหมืองแร่ทองคำ จ.พิจิตรและเพชรบูรณ์ ได้ยื่นหนังสือขอปรึกษาหารือกับรัฐบาลไทยเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยอาศัยสิทธิตามข้อตกลงทาฟต้า และล่าสุดได้ใช้สิทธิยื่นให้คิงส์เกตและประเทศไทย เข้าสู่กระบวนการระงับข้อพิพาทฯ ซึ่งขณะนี้ยังเจรจาได้
มีรายงานว่ารัฐบาลจัดตั้งคณะกรรมการดำเนินการระงับข้อพิพาทฯ โดยมีปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นหัวหน้าคณะ และมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นกรรมการ เช่น กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงยุติธรรม และสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อเจรจาและหาข้อยุติอย่างต่อเนื่อง