นายพิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก ขสมก.ว่าไม่มีเอกชนรายใดยื่นข้อเสนอโครงการประมูลจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี จำนวน 489 คัน ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อีบิดดิ้ง ราคากลาง 4,020 ล้านบาทเข้ามา แต่ไม่ได้รายงานเพิ่มเติมว่าปัญหาเกิดจากสาเหตุใด
ซึ่งขั้นตอนหลังจากนี้จะต้องรอหนังสือแจ้งผลการจัดซื้ออย่างเป็นทางการจากกรมบัญชีกลาง ก่อนนำเสนอให้นายประยูร ช่วยแก้ว รักษาการผู้อำนวยการ ขสมก. ในฐานะประธานการประมูล เป็นผู้ออกประกาศยกเลิกการจัดซื้อจัดจ้าง โดยคาดว่าจะสามารถประกาศยกเลิกได้ภายในสัปดาห์นี้ และจะรายงานผลให้คณะกรรมการบริหารกิจการ หรือ บอร์ด ขสมก. รับทราบในวันที่ 15 พ.ย.2560
ขสมก.ยังมีแนวคิดจะจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีครั้งต่อไปด้วยวิธีพิเศษ โดยเชิญผู้ซื้อเอกสารประกวดราคาทั้ง 8 รายมาเจรจา เนื่องจากเป็นกรณีจำเป็นเร่งด่วน เพราะกระทบต่อแผนปฏิรูปองค์กรและต้องการนำรถออกให้บริการประชาชนโดยเร็ว ซึ่ง พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 เปิดช่องให้สามารถทำได้ แต่ยังต้องศึกษาขั้นตอนและระยะเวลาการดำเนินงานก่อน
ด้านนายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า คณะกรรมการ (บอร์ด) และบอร์ดความเสี่ยงของ ช ทวี ได้หารือเรื่องการประมูลรถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน เป็นเวลา 2 วัน แต่สุดท้ายบอร์ดก็ตัดสินใจไม่ร่วมยื่นข้อเสนอและเสนอราคาในการประมูล
มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ช ทวี ยืนยันจะร่วมประมูลรถเมล์เอ็นจีวีมาโดยตลอด แต่ ช ทวี ลังเลใจจะร่วมประมูลครั้งนี้ เพราะมีข้อจำกัดหลายด้าน ทั้งต้นทุนรถที่ปรับตัวสูงขึ้น อัตราแลกเปลี่ยนและความกังวลเรื่องข้อครหาของสังคม
ทั้งนี้ ขสมก.เปิดประมูลรถเมล์เอ็นจีวี 489 คันมาแล้ว 6 ครั้ง โดยการประมูลครั้งแรกไม่มีผู้ผ่านคุณสมบัติ, ครั้งที่ 2 บริษัท ช ทวี ดอลลาเซียน จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ชนะการประมูล แต่บอร์ด ขสมก.สั่งให้ยกเลิกผลการประมูล เพราะเงื่อนไขการประมูลขัดกฎหมาย, ครั้งที่ 3 บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป เป็นผู้ชนะการประมูล แต่ ขสมก.ประกาศยกเลิกสัญญา เพราะเบสท์รินถูกปรับกรณีส่งมอบรถล่าช้าจนหมดวงเงินค้ำประกัน
ขณะที่ครั้งที่ 4 ขสมก.เลื่อนวันยื่นเอกสารประกวดราคาออกไปอย่างไม่มีกำหนด และต่อมาได้ประกาศยกเลิกการประมูล เพราะระยะเวลาเปิดประมูลขัดต่อระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2549, ครั้งที่ 5 เปิดประมูลด้วยราคากลางค่อนข้างต่ำที่ 3,389 ล้านบาท ส่งผลให้ไม่มีผู้ยื่นข้อเสนอและต้องยกเลิกการประมูลในที่สุด ส่วนครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 6 ไม่มีเอกชนเข้ายื่นประมูล