หลังจากที่รัฐบาลออกมาตรการ “ช็อปช่วยชาติ” ระหว่างวันที่ 11 พ.ย. - 3 ธ.ค.นี้ ให้ประชาชนใช้สิทธิไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ตามจำนวนที่ใช้จ่ายจริง แต่สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท โดยต้องเป็นการซื้อสินค้าและบริการในประเทศเท่านั้น ยกเว้นสินค้าและบริการบางประเภท เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ เรือ น้ำมัน และก๊าซเติมยานพาหนะ ส่วนบริการไม่รวมค่าที่พักโรงแรมและค่าบริการนำเที่ยว
ผู้ประกอบการร้านค้าปลีกหลายแห่งเริ่มจัดกิจกรรมทางการตลาด อย่างเช่น มหกรรมลดราคาปลายปี และจุดอำนวยความสะดวกลูกค้าในการออกใบกำกับภาษีเพิ่มมากขึ้น
กลุ่มซีพีเอ็น มองว่า นโยบายช็อปช่วยชาติจะช่วยกระตุ้นการจับจ่ายช่วงปลายปี และยอดขายของร้านค้าภายในศูนย์ฯ ได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้เกิดบรรยากาศการจับจ่ายที่คึกคัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งปีนี้มีการขยายระยะเวลาเพิ่มเป็น 23 วัน มั่นใจว่าจะมีการใช้บริการเพิ่มขึ้น ประมาณร้อยละ 30 จัดแคมเปญและกิจกรรมการตลาด
ขณะที่ ห้างบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ คาดว่าปีนี้ยอดขายน่าจะเพิ่มระหว่างการทำแคมเปญประมาณร้อยละ 30 เนื่องจากรัฐบาลออกแคมเปญเร็วขึ้น จัดสินค้าที่ตรงความต้องการของลูกค้า และเตรียมเพิ่มเครื่องออกบิลและแยกจุดบริการ นอกจากนี้ พร้อมทำโปรโมชั่นให้คะแนนพิเศษแก่ลูกค้าสมาชิกที่มาช็อป รับคะแนนตามเงื่อนไขที่กำหนด
บริษัทเทสโก้ โลตัส กล่าวว่า จัดการลดราคาปลายปี ขานรับมาตรการช็อปช่วยชาติ และกิจกรรมตามเงื่อนไขที่กำหนดของแคมเปญ ลูกค้าสามารถขอใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบได้เช่นกันเมื่อซื้อสินค้าออนไลน์
นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย กล่าวว่า มาตรการช็อปช่วยชาติเป็นผลดีทั้งต่อร้านอาหารภัตตาคารอย่างมาก ทั้งการผลักดันให้ผู้ประกอบการร้านอาหารไปจดทะเบียนเข้าสู่ระบบภาษีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น จากความต้องการใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบของลูกค้า
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินว่ามาตรการช็อปช่วยชาติจะทำให้มีเงินสะพัด 15,000 - 20,000 ล้านบาท เมื่อรวมกับการใช้จ่ายผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอีกราว 5,000 ล้านบาท คาดว่าโดยรวมจะมีเงินสะพัดกว่า 25,000 ล้านบาท
ขณะที่ นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า มาตรการช็อปช่วยชาติน่าจะเป็นผลดี ช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่เติบโตแบบกระจุกตัว เพราะจะช่วยกระจายกำลังซื้อไปสู่เศรษฐกิจรากฐานได้มากขึ้น