วันนี้ (16 พ.ย.2560) นายจรินทร์ จักกะพาก ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ได้ยืนยันกับนายปีเตอร์ เฮมอนด์ อัครราชทูตที่ปรึกษาสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย โดยระบุว่า รัฐบาลไทยมีความตั้งใจอย่างยิ่งที่จะแก้ไขปัญหาด้านแรงงานเด็ก แรงงานบังคับ และการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน ซึ่งภายหลังวันที่ 31 มี.ค.2561 จะไม่มีแรงงานข้ามชาติที่ผิดกฎหมายในประเทศไทย และทุกคนจะได้รับการเข้าสู่ระบบการพิสูจน์ตัวตนและได้รับสัญชาติจากประเทศต้นทาง เมื่อแรงงานได้เข้าสู่ระบบที่ถูกต้องแล้วก็จะสามารถให้ความคุ้มครองตามกฎหมายไทย และกฎหมายระหว่างประเทศด้วย ขณะเดียวกันยังให้ความสำคัญกับการคุ้มครองแรงงานประมง เนื่องจากสภาพการทำงานในปัจจุบันค่อนข้างล่อแหลม ซึ่งกระทรวงแรงงานจะให้การดูแลแรงงานอย่างดีที่สุด
นอกจากนี้ ยังมีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานร่วมกัน ได้แก่ กรมประมง กรมเจ้าท่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งทั้งหมดเป็นความพยายามที่ต้องการปลด Tier เพื่อลดข้อจำกัดด้านสิทธิในการส่งออกสินค้าประมงของไทยให้ราบรื่นและได้รับการยอมรับจากนานาชาติ
ด้านนายอนุรักษ์ ทศรัตน์ อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า สถานเอกอัครราชทูตลาวประจำประเทศไทย แจ้งว่า กระทรวงการต่างประเทศลาว ขอให้นายจ้างที่จ้างแรงงานลาว นำแรงงานที่ได้รับหนังสือยืนยันสถานภาพบุคคล (CI) ไปติดต่อสถานเอกอัครราชทูตลาว ประจำประเทศไทย เพื่อขอหนังสือเดินทางที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ถ.ประชาอุทิศ เขตวังทองหลาง
ขณะนี้แรงงานชาวลาวที่ถือบัตรสีชมพู เข้ารับการปรับสถานภาพแรงงานลาวแล้ว 10,747 คน คงเหลือที่ต้องพิสูจน์สัญชาติอีกกว่า 50,000 คน จึงขอให้แรงงานกลุ่มบัตรสีชมพูที่บัตรหมดอายุในวันที่ 31 มี.ค.2561 เร่งพิสูจน์สัญชาติเพื่อปรับสถานภาพแรงงานโดยด่วนภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยติดต่อที่สำนักงานจัดหางาน กทม.พื้นที่ 1-10 หรือสำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด เพื่อขอหนังสือรับรองการออกนอกพื้นที่ไปตรวจสัญชาติในราชอาณาจักร และจองคิวเลือกวันที่สะดวกในการเข้ารับการปรับสถานภาพ ที่ศูนย์การค้าไอที สแควร์ เขตหลักสี่ ซึ่งเมื่อเสร็จสิ้นการปรับสถานภาพ แรงงานลาวจะได้รับเอกสาร CI และ Work Permit Card ของทางการลาว และให้เร่งไปเปลี่ยน CI เป็นหนังสือเดินทางทันทีที่สถานเอกอัครราชทูตลาว