วันนี้ (17 พ.ย.2560) นายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรณีผลการตรวจดีเอ็นเอ “เลพัง” จระเข้ที่จับได้บริเวณหน้าหาดเลพัง ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยทีมคณะสัตวแพทย์จากมหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พิสูจน์จากการตรวจเลือดและยืนยันว่าเป็นจระเข้พันธุ์ผสม ทำให้จระเข้ตัวนี้ตกเป็นสมบัติของแผ่นดิน และจะต้องหาที่อยู่ที่เหมาะสม
อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า จากการประชุมหารือ มีมติร่วมกันที่จะส่งมอบจระเข้เลพัง ให้สวนสัตว์ภูเก็ตเป็นผู้ดูแล เพื่อให้จระเข้เลพัง ยังคงเป็นสมบัติของชาวจังหวัดภูเก็ต ซึ่งขณะนี้ สภาพร่างกายของเลพัง สมบูรณ์แข็งแรง และกินอาหารได้ปกติแล้ว ส่วนที่ต้องให้เอกชนดูแล เนื่องจากข้อจำกัดของสถานที่ของทางภาครัฐ ซึ่งไม่มีพื้นที่ที่ดูแลจระเข้โดยเฉพาะ จึงเห็นว่าควรจะฝากไว้กับสวนสัตว์ที่มีความพร้อมและมีความเชี่ยวชาญในการดูแลจระเข้
สำหรับ จระเข้เลพัง เป็นจระเข้ความยาว 2.8 เมตรที่ถูกพบว่ายในทะเลภูเก็ต จนเกิดกระแสฮือฮา ว่าจะจัดการอย่างไร จนกระทั่งวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา ถูกเจ้าหน้าที่ชุดไกรทองลุ่มแม่น้ำตาปี ศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงน้ำจืดภาคใต้ จ.สุราษฎร์ธานี และชาวประมงพื้นบ้านคลองปากบาง ป่าตอง อ.กะทู้ ร่วมกันจับได้บริเวณขุมเหมืองใกล้กับหาดเลพัง อ.ถลาง จ.ภูเก็ต และนำมาไว้ในบ่อซีเมนต์ขนาดใหญ่ ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาเพาะเลี้ยงประมงชายฝั่ง กระทั่งมีผลการตรวจดีเอ็นเอ ว่าจระเข้เลพัง เป็นจระเข้ลูกผสมระหว่าง จระเข้สยาม หรือจระเข้น้ำจืด และจระเข้น้ำเค็ม
อ่านข่าวเพิ่มเติม
ผลตรวจ DNA "จระเข้เลพัง” เป็นลูกผสมน้ำเค็ม-น้ำจืด ส่งถึงกรมประมงแล้ว