นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อดีตข้าราชการครูและเป็นผู้ต้องรับโทษในคดีขับรถชนคนตายเมื่อปี 2548 ใช้ชีวิตตามปกติ ที่บ้านพัก ในหมู่บ้านม่วงไข่ ต.ด่านม่วงคำ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร แต่ปฏิเสธไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน เนื่องจากต้องการพักผ่อน
เมื่อวานนี้นางจอมทรัพย์ ได้เข้ารับฟังคำพิพากษาศาลฎีกาที่ห้องพิจารณาคดี ของศาลจังหวัดนครพนม กรณีการยื่นเรื่องต่อศาลเพื่อขอรื้อฟื้นคดีขับรถชนคนเสียชีวิต ซึ่งล่าสุดศาลยกคำร้องเนื่องจากการยื่นรื้อฟื้นคดีกับศาลอุทธรณ์ภาค 4 นางจอมทรัพย์ อ้างว่า มีหลักฐานใหม่ นั่นก็คือ บันทึกคำรับสารภาพของ นายสับ วาปี ที่ระบุว่า เป็นคนขับรถกระบะชนคนเสียชีวิต และนายสับได้จ่ายเงินค่าสินไหมทดแทนให้กับญาติผู้เสียชีวิต นี่จึงเป็นเงื่อนไขสำคัญที่ทำให้ศาลอุทธรณ์รับรื้อฟื้นคดี แต่ในวันนัดสืบพยาน ระหว่างวันที่ 8-10 ก.พ.นางจอมทรัพย์กลับไม่ได้นำนายสับขึ้นนำสืบพยาน ศาลจึงยกคำร้องในที่สุด
ด้าน พ.ต.อ.ไพโรจน์ กุจิรพันธ์ หัวหน้าชุดคลี่คลายคดี ระบุว่า ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครพนม ได้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษารายละเอียดคำพิพากษา ก่อนดำเนินการเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้อง ในประเด็นการให้การเท็จและการสร้างพยานหลักฐานเท็จ ในช่วงที่กลุ่มเพื่อนครูจอมทรัพย์ดำเนินการขอรื้อฟื้นคดี โดยเริ่มจากการตรวจสอบกรณีนายสุริยา นวลเจริญ หรือครูอ๋อง เข้าพบกับ อดีตสมาชิกวุฒิสภาคนหนึ่งในจังหวัดมุกดาหาร ซึ่งอาจเป็นจุดเริ่มต้นในการดำเนินการว่าจ้างคนให้มารับผิดแทนครูจอมทรัพย์ ซึ่งหากตำรวจได้พยานหลักฐานก็จะพิจารณาแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง