เป็นอีกครั้งสำหรับอุบัติเหตุจากรถตู้ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ครั้งนี้แม้ว่าการขนส่งแรงงานข้ามชาติจะเป็นไปอย่างถูกกฎหมาย แต่สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้คาดว่ามาจากการหลับในของผู้ขับรถ จนเสียหลักไปชนกับรถสิบล้อที่กำลังขับอยู่บนถนนตามปกติ
ขณะที่ศพของแรงงานข้ามชาติ 13 คนและคนขับรถตู้โดยสารไม่ประจำทางของห้างหุ้นส่วนจำกัดบุญเรือนทัวร์อีก 1 คน ถูกลำเลียงมาไว้ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสิงห์บุรี เพื่อพิสูจน์ข้อมูลเบื้องต้น ก่อนส่งศพไปให้สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ พิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิต หลังจากเกิดอุบัติเหตุรถตู้ชนท้ายรถบรรทุกสิบล้อ บนถนนสายเอเชีย ช่วงอำเมืองเมืองสิงห์บุรี แล้วเกิดไฟลุกไหม้จนเสียชีวิตทั้งหมด
เจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยจังหวัดสิงห์บุรี เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า จุดที่เกิดเหตุค่อนข้างมืดเพราะไม่มีไฟฟ้าส่องสว่าง เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวไม่ใช่พื้นที่ชุมชนและทางร่วมทางแยก จะมีเพียงไฟหน้ารถเท่านั้นและขณะเกิดเหตุยังเห็นการร้องขอความช่วยเหลือจากผู้โดยสาร แต่ไม่สามารถช่วยเหลือได้
เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกได้เข้าตรวจสอบรถตู้โดยสารคันดังกล่าว และพบว่ารถคันนี้จดทะเบียนอย่างถูกต้อง เมื่อเดือนกรฎาคม 2559 โดยขออนุญาตเป็นรถรับจ้างไม่ประจำทาง ใช้เชื้อเพลิงเบนซินและก๊าซเอ็นจีวี จำนวน 2 ถัง และเมื่อตรวจสอบจากระบบจีพีเอส พบว่าก่อนถึงที่เกิดเหตุรถคันนี้วิ่งด้วยความเร็ว 107 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งถือว่าเร็วกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด
อุบัติเหตุครั้งนี้ยังทิ้งร่องรอยสภาพความเสียหายของรถตู้ที่ถูกไฟไหม้อยู่ริมถนนและร่องรอยการชนกับรถสิบล้อ บริเวณเลนที่สอง ซึ่งเป็นเลนที่รถสิบล้อวิ่งอยู่ปกติ แต่ไม่มีรอยการเบรคของรถตู้ ทำให้การสันนิษฐานสาเหตุเบื้องต้นคาดว่าเกิดจากผู้ขับหลับในจนชนกับรถสิบล้อ