วันนี้ (28 พ.ย.2560) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ชาวบ้านหลายหมื่นคน ยังปักหลักอยู่ในพื้นที่เสี่ยงใกล้ภูเขาไฟอากุง บนเกาะบาหลี ที่เกิดการปะทุอย่างรุนแรง โดยเพิกเฉยต่อการประกาศเตือนภัยระดับสูงสุดของทางการ เพราะคิดว่าคงไม่มีอันตราย รวมทั้งเป็นห่วงทรัพย์สินและปศุสัตว์
มีรายงานว่ามีชาวบ้านประมาณ 100,000 คนอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบจากหินหลอมละ ลายที่ไหลลงมาจากภูเขาไฟ ในจำนวนนี้มีเพียง 40,000 คน ที่อพยพออกจากพื้นที่ท่ามกลางความวิตกว่าภูเขาไฟอาจเกิดการระเบิดอย่างรุนแรงในเร็วๆนี้ ล่าสุดมีความเป็นไปได้ที่ทางการอินโดนีเซีย อาจส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปผลักดันชาวบ้านออกจากพื้นที่เสี่ยง

ขณะที่สนามบินบนเกาะบาหลี ต้องหยุดให้บริการชั่วคราว ส่งผลให้มีผู้โดยสารหลายพันคนตกค้างที่สนามบิน ก่อนหน้านี้ทางการอินโดนีเซียขยายเขตห้ามอยู่อาศัยรอบภูเขาไฟอากุงเป็นรัศมี 10 กิโลเมตรและมีคำสั่งให้ชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าวอพยพออกมาเพื่อความปลอดภัย
ภูเขาไฟอากุง เริ่มปะทุรุนแรงครั้งแรกเมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา และนับตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วภูเขาไฟได้พ่นเถ้าถ่าน และควันออกจากปากปล่องสูงขึ้นไปในอากาศกว่า 4,000 เมตร
สำหรับภูเขาไฟอากุงถือเป็นภูเขาไฟที่สูงที่สุดของเกาะบาหลี โดยมีความสูงกว่า 3,000 เมตร และเคยเกิดเหตุปะทุครั้งใหญ่พ่นกลุ่มควัน ลาวาและเถ้าถ่านในปี 2506 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1,600 คน
ด้านโฆษกท่าอากาศยานนานาชาติ เดนปาซาร์ บนเกาะบาหลีแถลงว่า ต้องปิดให้บริการ เป็นเวลา 24 ชั่วโมง ขณะที่เที่ยวบินต่างๆ ที่มีกำหนดเดินทางไปยังเกาะบาหลี ของประเทศอินโดนีเซียถูกยกเลิก ส่งผลให้กระทบต่อนักท่องเที่ยวหลายพันคนต้องติดค้างอยู่ในสนามบิน ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากออสเตรเลีย