นายกฯ ยืนยันอยู่ตามโรดแมป ปฏิรูปทำแล้วตอนนี้ สานต่อหรือไม่แล้วแต่รัฐบาลใหม่
ตั้งเป้าทวงคืนผืนป่า 1.5 ล้านไร่ภายใน 2 ปี
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ คืนวันศุกร์ที่ 12 มิ.ย.2558 เมื่อเวลา 20.15 น.ว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับบุกรุกผืนป่าในเขตอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และป่าสงวน ป่าต้นน้ำ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญถูกละเลยกันมานาน ที่ผ่านมาได้บูรณาการหลายหน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรฯ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทหาร คสช. ทั้งบุคลากรและเครื่องมือในการทวงคืนผืนป่า นายกรัฐมนตรีระบุว่ารัฐบาลตั้งเป้าหมายเบื้องต้นในการทวงคืนผืนป่าจากนายทุนกลับมาเป็นของรัฐให้ได้ 1.5 ล้านไร ภายใน 2 ปี และจะดำเนินการฟื้นฟูผืนป่าให้กลับมาเป็นป่าต้นน้ำให้ชุมชนดูแล พร้อมระบุว่ากลุ่มที่บุกรุกป่ามีทั้งชาวบ้านและนายทุน ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายส่งเสริมการปลูกพืชที่ผ่านๆมาในทุกภูมิภาค ซึ่งมีทั้งเกษตรกร คนยากจน และนายทุน เข้าไปบุกรุกป่า โดยเฉพาะการปลูกยางพาราที่กินพื้นที่ถึง 5.5 ล้านไร่
"ที่ผ่านมาผู้ที่นำมาปฏิบัติอาจจะไม่ให้ความสำคัญเท่าที่ควร และไม่สามารถที่จะไปสู้กับระบบนายทุนได้ อะไรได้ นายทุนที่ดี ๆ เขาก็มี ไม่ใช่บอกนายทุนไม่ดีทุกคน บางคนเขาก็ทำประโยชน์มากมายกับประเทศนี้ เราก็ต้องมีมาตรการเยียวยากับผู้ที่ยากจน และบุกรุกเข้าไป แล้วก็ปลูกพืชผิดกฎหมายจะทำอย่างไร จะมีการปลูกพืชทดแทนขึ้น พัฒนาให้หันมาเลี้ยงสัตว์ มาทำประมงได้หรือไม่" นายกรัฐมนตรี ระบุ
ผุดโครงการพาเกษตรกรดูงานต่างประเทศ - ห่วงอนาคตกสิกรรมไทย เร่งปั้นทายาทเกษตรกรรุ่นใหม่
นายกรัฐมนตรี ระบุว่ารัฐบาลมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งดำเนินการโครงการศึกษาดูงานเพื่อการสร้างและพัฒนาผู้นำการเปลี่ยนแปลงในภาคเกษตร คัดเลือกผู้แทนกลุ่มองค์กรเกษตรทุกสาขาการผลิต 45 รุ่น รุ่นละ 20 คน จากทั่วประเทศ เพื่อศึกษาดูงานต่างประเทศเกี่ยวกับสาขาของตนใน 6 ประเทศ ญี่ปุ่น เกาหลี ออสเตรเลีย จีน ไต้หวัน และมาเลเซีย เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ศึกษาแนวทางและเทคโลยีของต่างประเทศ เช่น ด้านการตลาด การสร้างทายาทเกษตรกรรุ่นใหม่ การใช้เครื่องจักรกลการเกษตร วิทยาการหลังเก็บเกี่ยว การแปรรูป ระบบโลจิสติกส์ และการสร้างมูลค่าเพิ่ม เพื่อนำกลับมาพัฒนาระบบการผลิตของภาคการเกษตรในชุมชน
"สิ่งใดที่เห็นว่าดี เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมบ้านเราก็นำมาต่อยอด นำมาขยาย นำมาประยุกต์ และถ่ายทอดให้คนในชุมชนด้วย ไม่ใช่นำมาทั้งหมด ก็ทำไม่ได้อยู่ได้ สอดคล้องกับบ้านเราด้วย"
พล.อ.ประยุทธ์ ระบุอีกว่าได้สั่งการเรื่องการเตรียมสร้างทายาทเกษตรกรรุ่นใหม่และยุวเกษตรกร เนื่องจากเห็นว่าจะเป็นฐานในการสร้างชุมชนที่เกษตรกรมีความเข้มแข็ง มีความรู้ความสามารถ สามารถสร้างจุดแข็งให้กับชุมชนได้ให้เหมาะสมกับพื้นที่ และเป็นการดึงบุคลากรให้ทำงานในพื้นที่ ไม่ต้องมีการเคลื่อนย้ายประชากรไปทำงานในเมืองใหญ่
"ถ้าสร้างได้วันหน้าเราก็มีความสบายใจที่ชุมชนจะมีความเข้มแข็งเกษตรกรมีความรู้ความสามารถในการแข่งขันแล้วก็สร้างจุดแข็งของตนเองให้ตรงกับพื้นที่ ตรงกับวัฒนธรรมอะไรของตนเองในแต่ละภูมิภาค ไม่ใช่ว่าทุกคนต้องเรียนรู้หมดทุกอันคงไม่ได้ ให้เหมาะสมกับพื้นที่ของตนเองแล้วจะได้ทำงานในพื้นที่ ในจังหวัดที่ตนเองเกิดเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญ ไม่ใช่ส่งเสริมให้คนไปหากินในพื้นที่อื่น ๆ บ้านเมืองตัวเองก็ไม่ได้พัฒนาก็ไปแออัดในเมืองใหญ่ๆ" พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ
สั่งการ สธ.เข้มงวดเฝ้าระวังไวรัส "เมอร์ส"
ในการประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญกับการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธ์ 2012 หรือเมอร์ส ที่กำลังระบาดในประเทศเกาหลีใต้ ซาอุดิอาระเบีย และประเทศแถบตะวันออกกลาง
นายกรัฐมนตรี ระบุว่ากรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้มีมาตรการเฝ้าระวัง ทั้งการป้องกัน การให้คำแนะนำกลุ่มเสี่ยงและสถานที่ที่ต้องมีการตรวจคัดกรอง รวมถึงการเคร่งครัดตรวจคัดกรองกลุ่มนักท่องเที่ยวและกลุ่มแรงงานที่กลับมาจากประเทศที่มีการระบาด ให้มีการดูแลในเบื้องต้น ปฏิบัติตามหลักสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้หากประชาชนต้องการปรึกษาหรือแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับไวรัสเมอร์ส ให้สอบถามที่สายด่วน 1422
ยืนยันรัฐบาลอยู่ตามโรดแมป ปฏิรูปทำแล้วตอนนี้ สานต่อหรือไม่แล้วแต่รัฐบาลใหม่
สำหรับข้อเสนอเรื่องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ บริหารประเทศต่ออีก 2 ปี เพื่อดำเนินการปฏิรูปประเทศให้เสร็จสิ้นแล้วจึงจัดการเลือกตั้งนั้น นายกรัฐมนตรีระบุว่าการปฏิรูปขณะนี้รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่แล้ว ซึ่งเป็นระยะที่ 2 ตามโรดแมปของ คสช.พร้อมระบุว่าจะพยายามปฏิรูปให้มากที่สุดเท่าที่อยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตามโรดแมปเดิมที่วางไว้ พร้อมขอร้องสื่มวชนหยุดตั้งคำถามในเรื่องนี้
"ขอยืนยันอีกครั้งสำหรับการปฏิรูปในขณะนี้ เราเริ่มต้นแล้วอยู่ในระยะที่ 2 ของรัฐบาล ของ คสช. เพราะฉะนั้นถ้าเราทำได้แค่ไหนก็แค่นั้น ในเรื่องของการปฏิรูปต่อไปก็เป็นการส่งต่อ ระยะที่ 3 การเลือกตั้งรัฐบาลก็ว่าไป ก็ทำต่อหรือไม่ก็แล้วแต่ เพราะว่าผมก็ทำได้แค่นี้ แต่พยายามจะทำให้มากที่สุด เท่าที่เวลาผมมีอยู่ตามโรดแมป อย่ามาถามผมอีกเรื่องเหล่านี้ ผมเสียเวลา ผมทำงานด้วย ต้องเอาเวลามาตอบคำถามแบบนี้มาตลอดเวลา นักข่าวก็ชอบถามเรื่องแบบนี้ แล้วก็ทำให้ผมไม่มีเวลาทำงาน แล้วก็อารมณ์หงุดหงิด แล้วบอกว่าทำไมผมหงุดหงิด ก็ถามคำถามที่มีสาระหน่อยแล้วกันได้หรือไม่" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว