สภาพความเสียหายของอาคารบ้านเรือน สะพานและถนน ซึ่งกลายสภาพเป็นเศษซากจากความรุนแรงของพายุโซนร้อนเท็มบิน ที่พัดถล่มทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 208 คน สูญหายไปอีก 150 คน ไร้ที่อยู่อาศัยอย่างน้อย 70,000 คน บ้านเรือนได้รับความเสียหายเกือบ 1,000 หลัง ขณะที่ถนนและสะพานบนเกาะมินดาเนาพังเสียหายอย่างหนัก บางจุดถูกดินถล่มปิดกั้น
ทางการท้องถิ่นเปิดเผยว่า ตอนเหนือของเกาะมินดาเนา มีผู้เสียชีวิต 135 คน และสูญหาย 72 คน ขณะที่บนคาบสุมทรซัมบวงกา มีผู้เสียชีวิต 57 คน สูญหายไปอีก 72 คน และใน จ.ลาเนา เดล ซูร์ มีผู้เสียชีวิต 18 คน
ล่าสุด สถานการณ์ยังคงเลวร้าย การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากยังคงมีฝนตกหนักในพื้นที่ ขณะที่กระแสไฟฟ้าและถนนถูกตัดขาด ทำให้หน่วยกู้ภัยยังเข้าไปไม่ถึงพื้นที่บางจุด ด้านศูนย์อพยพของทางการมีผู้ประสบภัยหนีพายุเข้ามาพักพิงระหว่าง 40,000 - 60,000 คน
หน่วยงานช่วยเหลือเปิดเผยว่า สาเหตุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหายจำนวนมาก เนื่องจากประชาชนเพิกเฉยต่อคำเตือนให้อพยพก่อนพายุเข้า เพราะคิดว่าพายุไม่รุนแรงและบางส่วนไม่รู้ว่าจะอพยพไปอยู่ที่ไหน
นอกจากความเสียหายจากพายุแล้ว ยังมีความวิตกกังวลว่าอาจเกิดโรคระบาดตามมา โดยเฉพาะใน จ.ลาเนา เดล ซูร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ยากจนที่สุดของประเทศ และในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมามีประชาชนต้องไร้ที่อยู่อาศัยถึง 350,000 คน จากการสู้รบระหว่างกองทัพฟิลิปปินส์กับนักรบของกลุ่มไอเอสในเมืองมาราวี