ในการประชุมเชิงปฏิบัติการ "อนาคตข้าวไทยเพื่อความยั่งยืน" โดยมีผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมข้าว เข้าร่วมทั้งภาครัฐ เอกชน เกษตรกร รวมถึงนักวิชาการในอุตสาหกรรมข้าว
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพาณิชย์ ระบุว่า ความต้องการข้าวในตลาดมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากประชากรโลกหันไปบริโภคอาหารชนิดอื่นมากขึ้น รวมทั้งนโยบายการพึ่งพาตนเองของแต่ละประเทศที่ส่งเสริมให้มีการปลูกข้าวกินเองมากขึ้น ส่งผลให้สต็อกข้าวโลกเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา โดยอยู่ที่ 140 ล้านตันข้าวสาร จากปกติที่ 100 ล้านตัน จึงจำเป็นต้องวางแผนการผลิตและการตลาดให้เหมาะสม เพื่อให้ราคาข้าวมีเสถียรภาพ
สำหรับความต้องการข้าวปีการผลิต 61/62 อยู่ที่ 30.4 ล้านตันข้าวเปลือก หรือ 19.8 ล้านตันข้าวสาร โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะควบคุมปริมาณการผลิตให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ส่วนสถานการณ์ราคาข้าวในปี 2561 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น โดยราคาข้าวหอมมะลิอยู่ที่ตันละ 15,000-16,000 บาท และข้าวขาวอยู่ที่ตันละ 7,000-8,000 บาท
ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ระบุว่า ปัญหาข้าวไทยที่เป็นอุปสรรคต่อการส่งออกคือพันธุ์ข้าวที่เป็นที่ต้องการของตลาดมีน้อย โดยเฉพาะข้าวพื้นนิ่ม ซึ่งเป็นที่ต้องการในจีนมาก ภาครัฐจะต้องมีการส่งเสริม โดยแนวโน้มการส่งออกข้าวในปีนี้ คาดว่าจะส่งออกได้ 9.5 ล้านตัน
สำหรับผลของการประชุมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์จะนำเสนอต่อคณะกรรมการและนโยบายบริหารจัดการข้าว (นบข.) ในต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2561 เพื่อพิจารณากำหนดมาตรการรองรับและนำไปใช้พัฒนาข้าวไทยทั้งระบบต่อไป