เมื่อวานนี้ (17 ม.ค.2561) นายศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตเลขาธิการ สหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (อังค์ถัด) กล่าวในงานสัมมนาความท้าทายบนเวทีการค้าและเศรษฐกิจโลกในทศวรรษหน้าว่า ทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ มักเกิดวิกฤตทุก 10 ปี โดยรอบนี้ พบความเสี่ยงจากการเติบโตของหุ้นที่เกี่ยวกับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และการเกิดใหม่ของสกุลเงินดิจิทัล จนอาจเป็นต้นเหตุให้เกิดวิกฤตรอบใหม่
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัญหาราคาบิทคอยน์ที่ปรับลดลงอย่างรวดเร็ว และการเกิดสกุลเงินดิจิทัลใหม่ๆ ต่อเนื่อง จนหากเกิดภาวะฟองสบู่ จะไม่กระทบเสถียรภาพระบบการเงินและเศรษฐกิจไทย เนื่องจากยังอยู่ในวงจำกัด ไม่แพร่หลาย ประกอบกับสถาบันการเงินมีความระมัดระวังธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนดังกล่าว
นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ยังไม่พบพฤติกรรมลูกค้าขายสินทรัพย์ในสถาบันการเงิน เพื่อชดเชยความเสียหายจากการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล พร้อมเตือนนักลงทุนที่สนใจและขอสินเชื่อเพื่อลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงสูง ขาดหลักประกัน เนื่องจากไม่สามารถใช้ชำระสินค้าและบริการภายใต้พระราชบัญญัติเงินตรา ดังนั้น หากราคาปรับลดลงอย่างรวดเร็ว และเหนือความคาดหมาย อาจสร้างความเสียหายไม่ต่างจากกรณีแชร์ลูกโซ่แม่ชม้อยในอดีต