วานนี้ (25 ม.ค.2561) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติ 213 ต่อ 0 งดออกเสียง 4 เสียง เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อเวลา 23.00 น. หลังใช้เวลาพิจารณานานกว่า 14 ชม.
สาระสำคัญในร่างกฎหมายที่อยู่ในความสนใจคือ มาตรา 2 ที่คณะกรรมาธิการฯ เสียงข้างมาก เสนอให้กำหนดระยะเวลาบังคับใช้ร่างกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. เมื่อพ้นกำหนด 90 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป โดยให้เหตุผลเพื่อให้สอดคล้องกับคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 53/2560 รวมถึงให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่เตรียมความพร้อมเกี่ยวกับการเลือกตั้ง และให้พรรคการเมืองมีเวลามากพอ ในการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งเบื้องต้น หรือ ไพรมารี่โหวต
สำหรับประเด็นมาตรา 35 สนช. มีมติ 181 ต่อ 24 งดออกเสียง 18 เสียง เห็นชอบ ให้ผู้ไม่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งถูกตัดสิทธิ์เพิ่มเติม ไม่สามารถสมัครรับราชการข้าราชการการเมือง และผู้บริหารท้องถิ่น เป็นเวลา 2 ปี ด้วยเหตุผลต้องการให้ความสำคัญกับการใช้สิทธิ์เลือกตั้ง
รวมถึงมีมติ 136 ต่อ 78 งดออกเสียง 8 เสียง เห็นชอบ มาตรา 75 ตัดข้อห้ามเพื่อเปิดทางให้ใช้ "มหรสพ" ในการหาเสียงเลือกตั้งได้ ด้วยเหตุผลว่าจะเป็นวิธีดึงดูดให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองมากขึ้น ซึ่งต้องกำหนดหลักเกณฑ์การควบคุมและวิธีประเมินค่าใช้จ่ายให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบ โดยไม่ให้ใช้งบเกินร้อยละ 20 ของงบประมาณค่าใช้จ่ายในการหาเสียง ทั้งของตัวผู้สมัครและพรรคการเมือง
นอกจากนี้ยังมีประเด็นสำคัญต่างๆ ที่น่าสนใจหลายมาตรา อาทิ มาตรา 72 ห้ามหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ นับตั้งแต่เวลา 18.00 น. ก่อนวันเลือกตั้งจนสิ้นสุดระยะเวลาเลือกตั้ง มาตรา 82 กกต.อาจจัดเวทีประชันนโยบายระหว่างพรรคการเมืองได้ และมาตรา 87 ขยายเวลาลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง จากเดิม 08.00 - 16.00 น. เป็น 07.00 - 17.00 น.
สำหรับกระบวนการต่อไป ประธาน สนช. จะตรวจสอบรายละเอียดความถูกต้องไม่เกินระยะเวลา 5 วัน ก่อนส่งให้ กกต. และ กรธ. พิจารณาความชอบด้วยเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ เป็นเวลา 10 วัน หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีข้อทักท้วงก็จะเสนอให้ประธาน สนช. จัดตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญร่วม 3 ฝ่าย เพื่อทบทวนร่างกฎหมายอีกเป็นเวลา 15 วัน ก่อนให้ สนช. ลงมติอีกครั้งหนึ่ง
แต่หากไม่มีข้อทักท้วงก็จะส่งให้นายกรัฐมนตรีเพื่อนำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยต่อไป แต่ก่อนจะดำเนินการขึ้นตอนสุดท้ายนี้ นายกรัฐมนตรีจะรอเวลาไว้ 5 วัน เผื่อกรณีว่าตัวนายกรัฐมนตรีเอง หรือ สนช.เข้าชื่อกันไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่จะยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยก็ได้