ชาวโรฮิงญากลุ่มเพิ่งเดินทางมาถึงค่ายกูตูปาลอง เมืองคอกซ์บาซา ประเทศบังกลาเทศวันนี้ (1 ก.พ.) ทั้งที่รัฐบาลเมียนมาและรัฐบาลบังกลาเทศได้เริ่มกระบวนการส่งตัวกลับประเทศต้นทางแล้วตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา
ชาวโรฮิงญาหนึ่งในกลุ่มที่เดินทางมาถึงบอกกับทีมข่าวไทยพีบีเอสว่า ยังคงมีการใช้ความรุนแรงในรัฐยะไข่ ประเทศเมียนมา ทำให้พวกเขาตัดสินใจพาครอบครัวทั้ง 12 คนมาที่นี่ และเพิ่งได้รับบัตรประจำตัวผู้ลี้ภัยจาก UNHCR
หลัง รัฐบาลบังกลาเทศและเมียนมาทำข้อตกลงเรื่องการส่งผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญากลับรัฐยะไข่เมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา และตกลงจะส่งตัวกลับเมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมาให้ได้สัปดาห์ละ 1,500 คน แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่สามารถส่งกลับได้
ข้อเรียกร้องของชาวโรฮิงญาในค่ายผู้ลี้ภัยกูตูปาลอง ที่ผู้นำชาวโรฮิงญาคนนี้แสดงต่อทีมข่าวไทยพีบีเอส โดยข้อเรียกร้องระบุว่า การจะเดินทางต้องมีความปลอดภัยตามขององค์การสหประชาชาติ รวมทั้งรัฐบาลเมียนมาต้องคืนสถานะความเป็นพลเมืองและควรได้กลับไปอยู่ในที่เคยอยู่
เจ้าหน้าที่องค์กรระหว่างประเทศเพื่อการย้ายถิ่นฐาน (IOM) บอกว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งให้ผู้ลี้ภัยยื่นความจำนงในการส่งตัวกลับประเทศ ตรงกันข้ามกลับมีผู้เดินทางมามากขึ้นและทุกคนที่ให้ข้อมูลในระเบียนผู้ลี้ภัยไม่มีใครต้องการเดินทางกลับถ้ายังมีเหตุความรุนแรงอยู่
ด้านบิลกิส เซตารา เจ้าหน้าที่ IOM ประจำค่ายผู้ลี้ภัยกูตูปาลอง หลังรัฐบาลทั้ง 2 ประเทศได้ทำข้อตกร่วมกันเมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมาได้กำหนดให้ส่งตัวผู้ลี้ภัยทั้งหมดจำนวนกว่า 900,000 คน กลับรัฐยะไข่ภายใน 2 ปี หรือสัปดาห์ละ 1,500 คน โดยรัฐบาลเมียนมาระบุว่า มีที่รองรับผู้ลี้ภัยทั้งหมด