วันนี้ (5 ก.พ.2561) นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เข้ายื่นหนังสือต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอตรวจสอบและลงโทษผู้บริหารสวนสัตว์อุบลราชธานี ปล่อยปละละเลยการปฏิบัติหน้าที่ กรณีปล่อยให้เสือไซบีเรีย ชื่อแครกเกอร์ ที่เลี้ยงในสวนสัตว์อุบลราชธานี ตายโดยผิดธรรมชาติ หากพบว่ามีการละเลยการปฏิบัติหน้าที่ขอให้มีการสั่งย้ายและปลดผู้ที่รับผิดชอบและเกี่ยวข้อง
แหล่งข่าวจากองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ยืนยันว่า กรณีดังกล่าวมีการติดตามคดีและแจ้งความเอาผิดกับคนงานที่ก่อเหตุ ขณะเดียวกันยังกำชับไปยังสวนสัตว์ทั้ง 7 แห่งในความรับผิดชอบขององค์การให้มีมาตรการคุมเข้ม ในดูแลความปลอดภัยของสัตว์อย่างเข้มงวด และไม่ให้เกิดเหตุซ้ำร้อยคดีวางยาเบื่อ และขโมยหนังเสือไปขาย ซึ่งยอมรับว่ากระทบต่อภาพลักษณ์
ขณะเดียวกันทางสวนสัตว์ เพิ่งได้มีการสำรวจจำนวนเสือโคร่ง ในกรงเลี้ยงของสวนสัตว์ทั้งหมดว่ามีจำนวนมากน้อยแค่ไหน เพื่อส่งข้อมูลให้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช นำไปรายงานต่ออนุ สัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ หรือไซเตส ซึ่งจะต้องมีการตรวจดีเอ็นเอ เจาะเลือดเสือทุกตัว และพิสูจน์ลายอัตลักษณ์เพื่อจัดทำฐานข้อมูล ป้องกันการลัก ลอบล่าและค้าเสือ ซึ่งเข้าใจว่าทางกรมอุทยานฯ กำลังรวบรวมข้อมูลทั้งหมด เพราะจะต้องสำรวจสถานภาพเสือในกรงเลี้ยงของสวนสัตว์เอกชนทั้งหมดด้วย
ขณะที่นายสมเกียรติ สุนทรพิทักษ์กูล ผอ.กองคุ้มครองสัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญาไซเตส กรมอุทยานฯ ตั้งข้อสังเกตว่า กรณีเสือตาย จะต้องแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งกรมอุทยานฯเข้าไปทำบัญชีสัตว์ตาย และต้องกำจัดซากสัตว์ด้วย ซึ่งต้องดูเอกสารว่ามีการทำตามขั้นตอนครบถ้วนหรือไม่
นายสมเกียรติ กล่าวว่า ยิ่งเกิดปัญหาหนังเสือไซบีเรีย ถูกขโมยเอาไปขายในราคาตามที่กล่าวอ้างในสื่อแค่ 20,000 บาทดูเหมือนว่าราคาจะไม่สมเหตุสมผล และคนงานกล้าก่อเหตุในสวนสัตว์ ทั้งที่ตลาดค้าขายหนังเสือในชายแดนไทย-ลาว สามารถหาซื้อได้ง่ายกว่าในประเทศไทย
เรื่องนี้อยากมีการตรวจสอบขบวนการค้าเสือในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมีไม่กี่กลุ่ม และคนที่อยากครอบครองหนังเสือ เรื่องนี้ไซเตส เคยเพิ่งเล็งไทยมาระยะ 1-2 ปี จนไทยได้มีความพยายามแก้ปัญหามาอย่างต่อเนื่อง แต่ถามว่าขบวนการค้าเสือยังไม่หมดแน่นอน