น.ส.กาญจนา นิตยะ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช แถลงข่าวกรณีเจ้าหน้าที่ป่าไม้จับกุมนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด และพวกรวม 4 คน โดยเปิดเผยว่า ทางกลุ่มนายเปรมชัยได้ขออนุญาตเข้าพื้นที่เพื่อศึกษาธรรมชาติ ยืนยันจะทำคดีอย่างรอบคอบและโปร่งใส
น.ส.กาญจนา ระบุว่า กลุ่มนี้มีทั้งหมด 4 คน มาขออนุญาตตั้งแคมป์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร โดยระบุว่าเป็นนักนิยมธรรมชาติและต้องการเข้าไปพักเพื่อศึกษาธรรมชาติ ทางกลุ่มเข้าพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 3-5 ก.พ.ที่ผ่านมา แต่วันที่ 4 ก.พ. เจ้าหน้าที่ตรวจพบว่าทางกลุ่มไม่ได้ปฏิบัติตามข้อกำหนด และมีการพกอาวุธเข้าพื้นที่ เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปบอกให้กลับไปตั้งแคมป์ในพื้นที่ที่กำหนดก็ไม่ปฏิบัติตาม
กาญจนา : การเข้าพักกางเต็นท์ ในกรณีนี้มีการขออนุญาตเข้าไปพักกางเต็นท์เพื่อศึกษาธรรมชาติ เพราะเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าไม่อยากให้เข้าไปท่องเที่ยว ซึ่งต่างจากเขตอุทยานแห่งชาติ กลุ่มนี้ขอเข้าพื้นที่เพื่อเข้าไปศึกษาธรรมชาติ สำนักฯ ก็อนุญาต ซึ่งผู้ที่โทรศัพท์มาขออนุญาต ไม่ใช่นายเปรมชัย เขาโทรมาขออนุญาต โทรศัพท์มาที่ห้องทำงานของดิฉันด้วย เขาโทรมาหลายเบอร์ ดิฉันก็ให้เจ้าหน้าที่โทรศัพท์ไปประสาน
ถาม : ที่มีกระแสข่าวว่า ผอ.กาญจนา รู้จักนายเปรมชัย จริงหรือไม่
ตอบ : ดิฉันไม่รู้จักคนชื่อนี้เลย (เปรมชัย) ผู้ที่เข้าพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุกคน คือแขกของเจ้าหน้าที่ เพราะเราเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการ ทุกคนคือแขกของกรมอุทยานแห่งชาติฯ เราต้องเข้าไปดูแลทุกคน และทุกคนต้องขออนุญาตเข้าพื้นที่ และเราปฏิบัติเหมือนกันทุกคน เราไม่รู้หรอกว่าใครเป็นคนมีชื่อเสียง หรือไม่มีชื่อเสียง เราดูแลเหมือนกันทุกคน ขอยืนยันว่าเราไม่รู้จักเขา เขาเป็นใครเราก็ไม่รู้จัก ตอนที่มาขอเข้าพื้นที่เราก็ปฏิบัติเหมือนกันทุกคน อยากฝากให้คนที่เข้าพื้นที่เชื่อฟังเจ้าหน้าที่บ้าง ทำตามที่เจ้าหน้าที่กำหนด กรมอุทยานฯ เราก็ไม่ได้คิดว่าใครจะเข้าไปทำอะไรแบบนี้ เพราะเราคิดว่ายุคสมัยนี้มันไม่ควรจะมีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นแล้ว เพราะทุกฝ่ายก็เน้นเรื่องการอนุรักษ์แล้ว
ถาม : ก่อนเข้าพื้นที่ เจ้าหน้าที่ไม่มีการตรวจค้นอาวุธของกลุ่มนี้เลยหรือ
ตอบ : ใครจะไปคิดว่าเขาจะเข้าไปเพื่อทำแบบนี้ เพราะเขาติดต่อมาว่าจะขอเข้าไปเพื่อศึกษาธรรมชาติ โดยเฉพาะคนระดับอย่างนี้ ปกติเราก็มีการสุ่มตรวจคนที่มีพฤติกรรมน่าสงสัย อย่างกรณีนี้ตามหลักเกณฑ์ก็ต้องไปพักที่หน่วยพิทักษ์ป่า แต่พอเจ้าหน้าที่บอกว่าเขาไปถึงเย็น หรือเกือบมืด ทำไมถึงไม่เข้ามาติดต่อสักที เจ้าหน้าที่จึงออกไปดู กังวลว่าจะเกิดอันตราย เพราะมีสัตว์จำนวนมาก
ถาม : เป็นไปได้ไหมว่าเจ้าหน้าที่เห็นว่าเป็นนักธุรกิจใหญ่จึงไม่ตรวจค้นอย่างละเอียด
ตอบ : ไม่น่าเป็นอย่างนั้น เพราะเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ไม่รู้หรอกว่าใครเป็นใคร เราปฏิบัติเหมือนกันหมด เขาก็ไม่ได้วางอาวุธให้เราเห็น
ถาม : สรุปแล้วมีการตรวจค้นอาวุธก่อนเข้าพื้นที่หรือไม่
ตอบ : ตามแนวปฏิบัติต้องตรวจ
ถาม : พื้นที่ที่กลุ่มของนายเปรมชัยตั้งแคมป์ อยู่ห่างจากพื้นที่ที่กำหนดเท่าไหร่
ตอบ : ประมาณ 5-6 กม. ซึ่งถือว่าไม่ได้พักในจุดที่เจ้าหน้าที่กำหนด
ถาม : การจะเข้าไปตั้งแคมป์ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าต้องขออนุญาตล่วงหน้าหรือไม่
ตอบ : ก็ควรจะขอล่วงหน้า ขั้นตอนการขออนุญาตปกติใช้เวลา 5 วันทำการ ตามหลักเกณฑ์เป็นแบบนั้น แต่ในทางปฏิบัติก็มีการขอแบบกระชั้นชิดบ้าง มีบางคนมาขออย่างเร่งรัด แต่ที่ผ่านมามันไม่เคยมีประเด็นแบบนี้
ถาม : เจ้าหน้าที่ลาดตระเวนรายงานว่าได้ยินเสียงปืนหรือไม่
ตอบ : เจ้าหน้าที่บอกว่าเข้าไปถึงพื้นที่ตั้งแคมป์แล้ว เพื่อเข้าไปบอกให้กลับไปตั้งแคมป์ในจุดที่กำหนด แต่เขาไม่ยอม
ถาม : กลุ่มนี้เคยขอเข้าพื้นที่มาก่อนหรือไม่
ตอบ : จากการตรวจสอบไม่พบรายชื่อคนกลุ่มนี้ขออนุญาตเข้าพื้นที่มาก่อน
ถาม : เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 4 กพ. แต่ทำไมทางกรมฯ ยังไม่ส่งตัวผู้ต้องหาและของกลางให้ตำรวจ รออะไรอยู่
ตอบ : เรื่องส่งคดีไม่ต้องกังวลเลย เราต้องส่งแน่นอน เพราะเราจับกุมขนาดนี้ ไม่ส่งไม่ได้อยู่แล้ว เพียงแต่เราจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้รัดกุมรอบคอบ และเรื่องที่ว่าจะมีการกดดันเจ้าหน้าที่หรือพยายามทำให้เรื่องเงียบ สื่อมวลชนก็ต้องช่วยกันติดตามด้วย
ถาม : ตอนนี้เจ้าหน้าที่ยืนยันได้แล้วใช่ไหมว่าคนกลุ่มนี้เข้าไปเพื่อล่าสัตว์โดยเฉพาะ
ตอบ : ถ้าเราเจอของกลางแบบนี้ ก็สรุปได้อย่างนั้น
ถาม : คิดว่าจะส่งหลักฐานทั้งหมดส่งให้ตำรวจได้เมื่อไหร่
ตอบ: น่าจะภายใน 1-2 วัน คดีนี้เป็นคดีที่สังคมสนใจ ขอยืนยันว่ากรมอุทยานฯ จะทำคดีอย่างถึงโปร่งใส ไม่ต้องห่วง
ถาม : บันทึกการจับกุมของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ มีความชัดเจนแค่ไหนว่านายเปรมชัยเกี่ยวข้องในการล่า
ตอบ : เราก็เขียนให้ครบถ้วนที่สุด และเขาก็อยู่ตรงนั้น
ถาม : สถานการณ์เสือดำในพื้นที่ทุ่งใหญ่นเรศวรเป็นอย่างไร
ตอบ : ผืนป่าตะวันตกมีพื้นที่ 7 ล้านไร่ มีเสือโคร่งประมาณ 100 ตัว เสือดำและเสือดาว 100-130 ตัว กรณีนี้ถือว่าโชคดีที่เราไปเจอ แต่เป็นโชคร้ายของสัตว์ป่าที่มันต้องถูกกระทำ
ถาม : มีแผนปรับแก้กฎหมายการล่าสัตว์ป่าหรือไม่ เพราะโทษยังน้อยมาก
ตอบ : เห็นด้วยนะ เพราะโทษมันเบา ตอนนี้ตอนที่เรากำลังแก้ พ.ร.บ. ก็จะมีการปรับบทลงโทษให้สูงขึ้น