วันนี้ (19 ก.พ.2561) พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ระบุถึงการเคลื่อนไหวชุมนุมของกลุ่มต้านโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา ที่จะเคลื่อนไปยังบริเวณทำเนียบรัฐบาลในวันพรุ่งนี้ (20 ก.พ.) ว่า หลังจากการแจ้งความให้ออกจากพื้นที่ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องประสานดำเนินการเพราะกังวลจะกระทบต่อการจราจร ซึ่งเป็นหน้าที่ตำรวจดูแลและใช้กฎหมายปกติ คาดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร ขณะนี้ได้มีการพูดคุยกับตัวแทนผู้ชุมนุมอยู่ตลอด เพราะเป็นปัญหาที่ยืดเยื้อมานาน แต่ที่ผ่านมาถือว่าเป็นการชุมนุมโดยสงบ แม้ว่าจะมีการยื่นหนังสือต่อองค์การสหประชาชาติ ก็เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อไทย เพราะการดำเนินการเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างรอบคอบ พร้อมยอมรับว่าต้องใช้เวลาให้รัฐบาลและคณะกรรมการส่วนที่เกี่ยวข้องพิจารณา
พล.อ.เฉลิมชัย ยังระบุถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งตามที่ได้ประกาศโรดแมปการชุมนุม ว่า เป็นการแสดงเจตนารมณ์ให้เกิดการเลือกตั้ง แต่คนส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจในเหตุผลจำเป็นและขั้นตอนตามกฎหมายที่อาจใช้ระยะเวลา แต่ดีกว่าให้เกิดการเผชิญหน้ากันและทำให้สถานการณ์กลับไปสู่จุดเดิม โดยติดตามการเคลื่อนไหวตั้งแต่เริ่มต้น รวมถึงกรณีมีกลุ่มการเมืองสนับสนุนหรือไม่
ส่วนการชุมนุมที่ขยายไปยังต่างจังหวัดนั้น ผู้บัญชาการทหารบก ยืนยันว่า ต้องมีการเลือกตั้งและคนส่วนใหญ่ต้องการความสงบ แต่หากเกิดการนำประชาชนมาเผชิญหน้ากันจะกลายเป็นปัญหาที่บานปลาย ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐพยายามใช้กฎหมายในกรอบที่เหมาะสม ตามที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง เน้นย้ำดูแลอำนวยความสะดวก ความปลอดภัย และดำเนินการตามกฎหมายอย่างเหมาะสม ที่ผ่านมาสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และผู้ชุมนุมต้องคิดและเข้าใจได้ด้วยตัวเอง พร้อมย้ำถึงผลประโยชน์ของชาติ
นอกจากนี้ พล.อ.เฉลิมชัย ยังมั่นใจว่า ในช่วงวันครบรอบ 4 ปี รัฐประหาร 22 พฤษภาคมนี้ จะไม่มีเหตุที่นำไปสู่ความรุนแรงตามเป้าหมายของผู้ชุมนุมที่ต้องการจุดประเด็น พร้อมขอให้ใช้เหตุการณ์ในอดีตเป็นบทเรียน เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ของประเทศมีความเข้าใจดีว่าได้ผ่านวิกฤตนั้นมาแล้ว เห็นว่าไม่จำเป็นต้องออกมาชุมนุม ส่วนฝ่ายการเมืองก็มีความเข้าใจและต้องการเลือกตั้ง ย้ำทำหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองให้รัฐบาลบริหารประเทศไปได้ตามกลไกของกฎหมาย
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารบกปฏิเสธให้ความเห็นว่า เป้าหมายของการชุมนุมช่วงใกล้วันครบรอบรัฐประหารของ คสช.ต้องการให้เกิดเหตุคล้ายเหตุพฤษภาทมิฬฯ แต่ฝากย้ำทุกฝ่ายว่า หากทุกคนเห็นแก่ผลประโยชน์ของประเทศก็ขอให้ช่วยกันด้วยจิตสำนึกต่อชาติ