วันนี้ (20 มี.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีมโฆษกอัยการ และนางสมศรี วัฒนไพศาล อธิบดีอัยการภาค 7 พร้อมคณะทำงานคดีนายเปรมชัย แถลงข่าวความคืบหน้าของคดี ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ
อธิบดีอัยการภาค 7 เปิดเผยว่า คณะทำงานของอัยการภาค 7 ได้ตรวจสอบสำนวนแล้ว พบว่าต้องส่งให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนเพิ่มเติม 3 ประเด็น เพื่อให้เกิดความกระจ่างและความชัดเจน เนื่องจากผู้ต้องหาให้การภาคเสธ พร้อมกำชับให้พนักงานสอบสวนส่งกลับมาภายในวันที่ 26 มี.ค.นี้ โดยจะครบกำหนดฝากขังนายเปรมชัยในวันที่ 25 มี.ค.นี้ ซึ่งพนักงานอัยการจะยื่นฝากขังต่อไป
สำหรับประเด็นที่สั่งสอบสวนเพิ่มเติมสามารถเปิดเผยได้ในบางเรื่อง เพราะเป็นความลับ ไม่ต้องการให้อีกฝ่ายตั้งประเด็นและนำไปเป็นข้อต่อสู้ ส่วนใหญ่เป็นประเด็นพฤติการณ์และรายงานการตรวจสอบบางฉบับ ซึ่งพนักงานสอบสวนยังไม่ได้ส่งมาในสำนวน หากพนักงานสอบสวนครบทุกประเด็นและส่งข้อมูลโดยสิ้นกระแสความ คาดว่าจะสามารถสั่งคดีได้ภายในกำหนด
สบายใจได้ว่า 857 หน้า เราดูหมดแล้ว เพื่อให้สิ้นกระแสความ เราสั่งให้สอบสวนเพิ่มเติม เว้นแต่สิ่งที่พนักงานสอบสวนไปสอบเพิ่มเติมและมีประเด็นใหม่ที่ไม่ได้อยู่สำนวนคดี ก็อาจให้สอบเพิ่มอีกได้
ส่วนกรณีนายเปรมชัยอาจส่งหนังสือร้องขอความเป็นธรรมนั้น อธิบดีอัยการภาค 7 ระบุว่า ต้องตรวจสอบว่ามีเนื้อหาประเด็นในสำนวนหรือไม่ ขออย่าเพิ่งด่วนสรุป หรือคิดแทนผู้ต้องหา เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีการร้องขอเข้ามา
คดีนี้ไม่ใช่คดีใหญ่สำหรับพนักงานอัยการ โทษไม่มาก ไม่ใช่คดีที่เกิดขึ้นทุกวัน แต่เกี่ยวข้องกับฐานะทางสังคมของผู้ต้องหาและประชาชนให้ความสนใจ ยืนยันไม่กดดัน สังคมลงโทษก็เป็นโทษทางสังคม ส่วนเราดูตามข้อกฎหมาย
ขณะที่นายสมเจตน์ อำนวยสวัสดิ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 2 ภาค 7 หัวหน้าคดีทำงานคดีนายเปรมชัย กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีปกติ แต่ได้รับความสนใจจากประชาชน ส่วนของอัยการมีหน้าที่ให้ศาลรับฟังข้อมูลเพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกัน จึงต้องมีคำสั่งสอบสวนเพิ่มเติม ทั้งนี้ นอกจาก 9 ข้อหาแล้ว พนักงานอัยการมองว่ายังมีประเด็นที่สามารถแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับนายเปรมชัยได้ แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ซึ่งการตรวจสอบมุ่งเน้นไปในพฤติการณ์ของกลุ่มผู้ต้องหา
ด้านนายประยุทธ์ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักอัยการสูงสุด ยืนยันการสั่งสอบสวนเพิ่มเติม ไม่ใช่ความผิดของหน่วยงานใดทั้งสิ้น แต่ต้องการสำนวนที่ครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุด ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญทางคดี เพื่อให้สิ้นกระแสความ
ทั้งนี้ เมื่อได้รับสำนวนคดีจากพนักงานสอบสวน วันที่ 13 มี.ค.2561 อัยการได้ตรวจสอบพบว่ามีประเด็นที่ต้องสอบสวนเพิ่มเติม ยังไม่ได้ลงความเห็นคำสั่ง และต้องรอดูว่าพนักงานสอบสวนส่งประเด็นกลับมาครบถ้วนหรือไม่ หรือมีประเด็นสอบสวนเพิ่มอีกหรือไม่ เพื่อพิจารณาต่อไป