ชี้ Social Media มีบทบาทสำคัญกระจายข่าวลือแบบผิดๆ
ตำรวจอังกฤษเปิดการสอบสวนครั้งใหญ่เพื่อหาเหตุที่มาของการจลาจลรุนแรงทางเหนือของกรุงลอนดอนเมื่อวานนี้ เบื้องต้นมีการชี้ว่า โซเชียลมีเดียมีบทบาทสำคัญในการขยายข่าวลืออย่างผิดๆ จนกลายเป็นความรุนแรง
เหตุจลาจลในย่านทอตแน่ม ซึ่งตั้งอยู่ทางเหนือของกรุงลอนดอนเมื่อวานนี้ (7 ส.ค.) ส่งผลให้อาคาร 2 แห่ง รถยนต์ตำรวจ 2 คัน และรถเมล์โดยสารถูกไฟเผาผลาญเสียหายทั้งหมด นอกจากนั้น กระจกหน้าต่างและประตูของอาคารร้านค้าหลายแห่งในบริเวณที่เกิดเหตุ ก็ถูกทุบทำลาย รวมถึงเกิดการปล้นสะดม
ตำรวจอังกฤษเปิดเผยว่า เวลานี้กำลังเริ่มสอบปากคำผู้ถูกจับกุมตัวทั้งสิ้น 55 คน นอกจากนี้ก็ใช้ภาพจากกล้องวงจรปิดขยายผลเพื่อจับกุมเพิ่มเติม
จนถึงเวลานี้ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าการประท้วงโดยสงบของชาวชุมชนทอตแน่มกลับกลายมาเป็นความรุนแรงได้อย่างไร แต่ในเบื้องต้น ตำรวจให้ข้อสังเกตว่า มีเสียงเล่าลือขึ้นภายในชุมชนทอตแน่มว่า หญิงวัยรุ่นคนหนึ่งกำลังประจันหน้ากับตำรวจแบบเดียวกับสาเหตุที่กำลังมีการประท้วงกันอยู่บริเวณหน้าสถานีตำรวจ จากนั้นชาวชุมชนทอตแน่มที่มีเชื้อสายชาวแอฟริกันและคาริบเบียนก็ทยอยมาสมทบ จาก 100 คน เป็น 500 คน และผลต่อมาก็คือการเปิดฉากทำลายทรัพย์สิน
ตำรวจอังกฤษระบุว่า ข่าวลือดังกล่าวถูกขยายไปอย่างรวดเร็วแบบผิดๆ ด้วยสื่อยุคใหม่ หรือโซเชียลมีเดีย เช่น เฟสบุ๊ค
จุดเริ่มของการประท้วงมาจากชายชาวชุมชนคนหนึ่งถูกตำรวจสกัดรถยนต์และเกิดการต่อสู้กันจนถูกตำรวจยิงเสียชีวิต ซึ่งก็มีรายงานด้วยว่าตำรวจเองก็บาดเจ็บ จากนั้นชาวชุมชนจึงมารวมตัวกันประท้วงที่บริเวณหน้าสถานีตำรวจ แต่ล่าสุดชาวชุมชนบางคนก็ระบุว่า แม้จะเคยมีความสัมพันธ์อันเลวร้ายกับตำรวจจนกลายเป็นการจลาจลเมื่อหลายสิบปีก่อนหน้านี้ แต่ปัจจุบันความรู้สึกนี้ก็ได้หมดสิ้นไปแล้ว