วันนี้(15 เม.ย.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากประชาชนเริ่มทยอยเดินทางกลับจากภูมิลำเนาหลังฉลองเทศกาลสงกรานต์ เพื่อหลีกเลี่ยงสภาพจราจร ที่คาดว่าจะติดขัดในวันพรุ่งนี้ (16 เม.ย.) แม้จะยังไม่หมดวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ โดยเฉพาะเส้นทางสายภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีรถยนต์ส่วนบุคคลทยอยเดินทางกลับมาทำงานในกรุงเทพมหานคร
ขณะดียวกันยังมีฝนตกหนักตลอดทั้งวันจึงทำให้ใช้ความเร็วได้เพียง 40 กิโลเมตร ต่อชั่วโมงเท่านั้นส่งผลให้ปริมาณรถบนนถนนมิตรภาพตั้งแต่จังหวัดขอนแก่น ต่อเนื่อง อำเภอเมืองจังหวัดนครราชสีมารถชลอตัวสะสมตลอดเส้นทาง
เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงนครราชสีมา ต้องเปิดช่องทางจราจรพิเศษ บนถนนมิตรภาพ (ทล.2) ได้แก่ ฝั่งขาเข้า กรุงเทพฯ ขาเข้า กม.79 (ทล.2) ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และขาออก กม.76 (ทล.2) ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา รวมระยะทางเปิดเป็น 3 กิโลเมตรเพื่อเร่งระบายรถตั้งแต่เวลา 14.00 น.
ปริมาณรถที่หนาแน่นไม่ใช่อยู่แค่บนท้องถนน แต่ตามจุดพักรถ ก็เต็มไปด้วยรถยนต์จำนวนมากที่ทยอยเข้ามาใช้บริการเนืองแน่น ตามท้ายกระบะของประชาชนยังเต็มไปด้วย ของฝากเช่น ข้าวสารอาหารแห้ง
ขณะที่ช่วงบ่ายที่ผ่านมา ทีมข่าวไทยพีบีเอส สำรวจบรรยากาศการเดินทางด้วยรถทัวร์โดยสารขณะนี้ จังหวัดขอนแก่นจังหวัดใหญ่ที่มีบริการเที่ยวรถมากกว่าจังหวัดใกล้เคียงตั๋วรถเต็มทุกบริษัทถึงวันที่ 18 เม.ย.นี้ รวมทั้งรถไฟ ที่ขณะนี้ตั๋วนั่งเต็มหมดแล้ว เหลือเพียงตั๋วนั่งชั้น 3 เท่านั้น ทำให้ประชาชนต้องซื้อตั๋วเดินเดินทางกลับ และต้องยืนอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมง
สายเหนือเข้ากทม.วันแรก รถหนาแน่น
ขณะที่บรรยากาศการเดินทางจากภาคเหนือ เริ่มจากจ.เชียงใหม่ บริเวณสถานีขนส่งอาเขต อ.เมือง จ.เชียงใหม่ มีประชาชนแบะนักท่องเที่ยวทยอยขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับ หลายคนบอกว่าที่เลือกกลับวันนี้เพื่อต้องการหลีกเลี่ยงการจราจรที่แออัด เพราะพรุ่งนี้(16 เม.ย.) คาดว่าจะมีคนเดินทางจำนวนมาก
ขณะที่จังหวัดนครสวรรค์ตลอดทั้งวันบนถนนพลโยธินหมายเลข 1 ถนนทางหลวงหมายเลข117 นครสวรรค์-พิษณุโลก และถนนเลี่ยงเมืองหมายเลข 122 การจราจรเพิ่มขึ้น แต่รถยังเคลื่อนตัวได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนถนนพหลโยธินหมายเลข 1 บริเวณเชิงสะพานเดชาติวงศ์ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ การจรา จรหนาแน่น แต่ไม่ถึงกับติดขัด โดยตำรวจทางหลวงนครสวรรค์ ได้เตรียมแผนรับมือโดยการเปิดช่องทางการจราจรพิเศษไว้แล้ว
ตร.อ่างทองแนะทางเลี่ยงเข้ากรุงหนีรถติด
ส่วนบริเวณถนนสายเอเชียช่วง กม.ที่ 60 เขตรอยต่อ อ.เมือง และอ.ไชโย จ.อ่างทอง รถเข้ากรุงเทพเพิ่มปริมาณขึ้นอย่างต่อเนื่องจนเต็มทุกช่องทาง โดยสามารถทำความเร็วได้เพียง 40-60 กม.ต่อชั่ว โมง ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่าตั้งแต่ช่วงค่ำเป็นต้นไป รถจะเพิ่มมากขึ้น และอาจเกิดรถสะสมเป็นจำนวนมาก
ขณะที่ตำรวจภูธรเมืองอ่างทอง แนะประชาชนใช้ทางเลี่ยงเข้าต่างระดับอ่างทองเพื่อไปใช้ถนนสาย 309 อ่างทอง-อยุธยาสายเก่า ก่อนที่จะเลี้ยวขวาที่แยกวรเชษฐและใช้เส้นทางอยุธยา-ปทุมธานีก่อนขึ้นทางด่วนอุดรรัถยาเพื่อเข้ากรุงเทพจะได้รับความสะดวกมากขึ้น