หลังจากองค์กรส่งเสริมและปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา (อสคพ.) ยื่นหนังสือถึง พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ขอทราบกรณีนางกนิษฐา พราหมณ์เสน่ห์ ภรรยา พ.ต.ท.พงศ์พร ใช้งบประมาณของ พศ.เดินทางไปสักการะสังเวชนียสถานที่ประเทศอินเดียและเนปาล
นายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม ชี้แจงตามเอกสารที่ออกโดยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ระบุว่า พศ.ได้รับจัดสรรงบประมาณอุดหนุนเจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ พระภิกษุสามเณรและบุคลากรผู้สนับสนุนงานด้านพระพุทธศาสนา ศึกษาดูงานสักการะสังเวชนียสถาน 4 ตำบลที่ประเทศอินเดียและเนปาล จำนวน 5 ล้านบาท ซึ่งในอดีตเคยมีการจัดสรรงบประมาณในลักษณะนี้เป็นประจำทุกปี
โดยนางกนิษฐา พราหมณ์เสน่ห์ เป็นบุคคลหนึ่งซึ่งสนับสนุนและทำประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา เป็นผู้ที่ผ่านหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือก มีคุณสมบัติตามประกาศและวัตถุประสงค์ของการจัดสรรงบประมาณดังกล่าว การกำหนดกระบวนการคัดเลือก มีการประกาศล่วงหน้า มีคณะกรรมการคัดเลือก การคัดเลือกจึงมิได้กระทำตามอำเภอใจ
การร้องเรียนเผยแพร่ข่าวอาจเป็นการละเมิดสิทธิบุคคลอื่นและอาจถูกดำเนินคดีอาญาฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตลอดจนความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มีโทษถึงจำคุกได้
ขณะที่นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้กำกับดูแล พศ. กล่าวว่า ทุกอย่างอยู่ที่ข้อเท็จจริง เรื่องการไปสังเวชนียสถาน ประเด็นคือ 1.งบประมาณของรัฐบาลนั้นได้มีการจัดสรร และ 2.มีการบริหารจัดการงบประมาณส่วนนี้ให้โปร่งใสเป็นไปด้วยความชอบธรรม ให้แก่คณะสงฆ์ อุบาสก อุบาสิกา ฝ่ายราชการ ที่ให้ความสนับสนุน และเดินทางไปดูแลคณะสงฆ์ต่างประเทศ ทุกอย่างอยู่ที่การบริหารจัดการให้โปร่งใส ทุกอย่างก็ดีงามเอง
ส่วนประเด็นการตรวจสอบการทุจริตเงินทอนวัด ขณะนี้กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ได้ส่งสำนวนคดีการทุจริตเงินทอนวัดล็อต 3 ให้กับกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แล้ว โดยอยู่ในขั้นตอนรวบรวมข้อมูลของ ป.ป.ช.คาดว่าจะเข้าที่ประชุมใหญ่เร็วๆ นี้