วันนี้ (7 พ.ค.2561) นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตแกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัว Chaturon Chaisang ระบุว่า
หัวหน้าคสช. จะทำ 5 ข้อ ใน 8 เดือน
มีการชี้แจงว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการทำงานของคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศว่า พร้อมให้การสนับสนุนเพื่อความสำเร็จ โดยเฉพาะ 5 เรื่องเร่งด่วน (Quick Win) ที่จะดำเนินการให้เห็นผลภายใน 8 เดือนก่อนการเลือกตั้ง
คือ 1.การปฏิรูประบบราชการและการอำนวยความสะดวก 2.การแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน 3.การปราบปรามทุจริตคอร์รัปชัน 4.การสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน 5.การลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมในสังคม
ยังมีการชี้แจงงด้วยว่า “นายกฯให้กำลังใจคณะทำงาน และขอให้เร่งรวบรวมข้อมูลเสนอขึ้นมา หากเรื่องใดที่เป็นประโยชน์และสามารถทำได้จริง จะพิจารณาให้ทำทันที โดยหลายเรื่องก็ได้ดำเนินการมาแล้วก่อนหน้านี้และทำอย่างต่อเนื่อง เช่น การลดขั้นตอนการให้บริการภาครัฐ การให้สิทธิทำกินในที่ดินของรัฐ โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ฯลฯ”
ถ้าพล.อ.ประยุทธ์สามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้ คงทำมานานแล้วละครับ
เกือบ 4 ปีที่ผ่านมา มีการปฏิรูปอะไรไปบ้าง ข้าราชการระดับสูงต้องทำงานด้วยความหวาดกลัว เพราะไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นกับตนเองจากการสั่งการตามอำเภอใจของหัวหน้าคสช. ข้าราชการโดยทั่วไปอาจได้รับการเอาอกเอาใจในด้านสิทธิประโยชน์ครั้งแล้วครั้งแล่า แต่ก็ถูกกันออกจากประชาชน เนื่องจากประชาชนในประเทศนี้ไม่มีสิทธิมีเสียง เมื่อไม่มีใครคอยตรวจสอบ ควบคุมการทำงานของข้าราชการ จะหวังให้ข้าราชการรับใช้ประชาชนย่อมเป็นไปไม่ได้
เห็นๆ กันอยู่ การแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชนเป็นเรื่องที่รัฐบาลคสช.ล้มเหลวมากที่สุด รัฐบาลนี้โอ้อวดอยู่แต่ตัวเลขในภาพรวม ซึ่งก็ไม่ได้ดีอะไรนัก แต่ที่ไม่ได้ให้ความสนใจมาตลอด ก็คือ ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนโดยเฉพาะปัญหาปากท้อง
เวลานี้ การปราบปรามทุจริตคอรัปชั่นน่าจะอยู่ในจุดต่ำสุด ระบบและองค์กรที่ใช้ในการปราบคอรัปชั่นได้ทูกทำลายไปแล้วอย่างยับเยิน เพียงเพื่อให้บุคคลสำคัญของคสช.สามารถควบคุม กำกับ และใช้ประโยชน์จากระบบและองค์กรต่างๆเพื่อพวกพ้องของตนได้
การมีส่วนร่วมของประชาชนเกือบจะไม่มีเลยมาตลอด ถ้ามีก็เป็นเพียงพิธีกรรมให้พอเอาไปอ้างได้ว่า มีแล้ว การจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชนในทุกด้าน ย่อมทำให้ประชาชนไม่มีทางมีส่วนร่วมกับการดำเนินการใดๆ ของรัฐได้
คสช.และรัฐบาลนี้ได้บริหารประเทศมาโดยเอื้อต่อผลประโยชน์ของบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งในและต่างประเทศมาตลอด ความร่วมมือระหว่างรัฐกับเอกชนรายใหญ่ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในรงการสำคัญ มีแต่จะทำให้ผู้ที่รวยอยู่แล้วยิ่งรวยขึ้นและได้เปรียบมากขึ้น ส่วนประชาชนส่วนใหญ โดยเฉพาะคนยากคนจนหรือแม้แต่ธุรกิจเอกชนขนาดเล็ก ขนาดกลางต่างก็ตกอยู่ในสภาพเสียเปรียบและถูกเอาเปรียบมากขึ้นและชัดเจนขึ้นทุกที
การที่หัวหน้าคสช.และเป็นนายกฯอยู่ด้วยประกาศจะทำใน 5 ข้อ จึงเป็นสิ่งที่สวนทางกับสิ่งที่คสช.กับพวกได้ทำมาตลอดเกือบ 4 ปีมานี้ และไม่ต้องสงสัยเลยว่า จะเป็นการกระทำตรงข้ามกับสิ่งที่จะทำจริงๆในห้วงเวลาจากนี้เป็นต้นไปอย่างแน่นอน