ปี 2552 น.ส.รัตนฉัตร แสงหยกตระการ ฟ้องร้องกทม. ต่อศาลปกครองกลาง ให้ระงับการตั้งตลาด บริเวณหมู่บ้านเสรีวิลลา ใกล้สวนหลวง ร.9 เขตประเวศ
ปี 2553 ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งเกี่ยวกับวิธีการคุ้มครองชั่วคราว และคำพิพากษาให้ผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานครและเขตประเวศ ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข พ.ศ.2535 พ.ร.บ. ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 และพ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 จัดระเบียบตลาด ไม่สร้างความเดือดร้อนรำคาญ ขณะนั้นหน่วยงานรัฐผู้ถูกฟ้อง ได้ยื่นอุทธรณ์คดีต่อศาลปกครองสูงสุด
ปี 2555 ได้มีการเปิดตลาดนัดเพิ่ม น.ส.บุญศรี กับพวก จึงยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง แผนกคดีสิ่งแวดล้อม โดยศาลปกครองชั้นต้น มีคำสั่งให้ผู้ว่าฯ กทม.และเขตประเวศ ดูแลจัดการไม่ให้ผู้ใดสร้างความเดือดร้อนรำคาญกับผู้ฟ้อง
ปี 2556 ศาลมีคำสั่งคุ้มครองผู้ฟ้อง แต่ กทม.ไม่ได้บรรเทาทุกข์ให้ น.ส.บุญศรี จึงยื่นฟ้องผู้ว่าฯ กทม. ผอ.เขตประเวศ สำนักงานเขตประเวศ และกทม. ต่อศาลปกครองกลาง ฐานละเลยต่อหน้าที่
โดยในปีเดียวกัน ศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษา ให้เรียกเจ้าของตลาดนัด 2 แห่งที่เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่อาจจะต้องถูกบังคับตามคำสั่ง เข้าร่วมคดีด้วย เพื่อจะได้ข้อเท็จจริงตามฟ้องได้ครบถ้วน คดีนี้จึงเริ่มกระบวนการพิจารณาใหม่มาตั้งแต่ปี 2556
ต่อมาปี 2559 ตลาด 5 แห่ง ได้แก่ 1.ตลาดสวนหลวง 1 2.ตลาดเปิ้ลมาร์เก็ต 3.ตลาดยิ่งนรา 4.ตลาดรุ่งวาณิชย์ และ 5.ตลาดร่มเหลือง เปิดดำเนินการโดยยังไม่ได้รับอนุญาตจัดตั้งตลาดอย่างถูกต้อง
เขตประเวศ ได้แจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของตลาดฐานกระทำความผิดจัดตั้งตลาดโดยไม่ได้รับอนุญาต ศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งให้ศาลปกครองกลางทบทวนการพิพากษา
วันที่ 18 ก.พ.2561 เกิดเหตุทุบรถโดย น.ส.รัตนฉัตร พร้อมพวก ใช้ขวาน และเสียมทุบทำลายรถยนต์กระบะที่จอดขวางประตูเข้าออกหน้าบ้านหมู่บ้านเสรีวิลลา
วันที่ 19 ก.พ.2561 หลังเกิดเหตุการณ์ทุบรถ เจ้าของรถกระบะ เข้าแจ้งความ น.ส.รัตนฉัตร พร้อมพวกที่ โดยระบุว่า คิดว่าเป็นบ้านร้าง จึงนำรถมาจอดซื้อของเพียงแค่ 10 นาที
วันที่ 20 ก.พ.2561 น.ส.รัตนฉัตร พร้อมพวก แถลงเกี่ยวกับกรณีการทุบรถ พร้อมชี้ปัญหาผู้ว่าฯ กทม. ออกใบอนุญาตให้สร้างตลาดซ้อนบนพื้นที่หมู่บ้านรวมทั้งหมด 8 ตลาด เกิดมลภาวะทั้งเสียงและกลิ่น ไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชน 289 ครัวเรือน ทั้งนี้ยังมีปัญหาเรื่องรถจอดกีดขวางประตูบ้าน
ในวันเดียวกัน สำนักงานเขตประเวศ กทม.นัดเจ้าของตลาดมาหารือเพื่อแก้ปัญหา โดยเจ้าของตลาดยอมยกเว้นค่าที่จอดรถ เพื่อให้ผู้ที่มาซื้อของเข้าจอดอย่างเป็นระเบียบ
วันที่ 21 ก.พ.2561 เจ้าหน้าที่ได้เปรียบเทียบปรับเจ้าของรถในข้อหา จอดรถตรงปากทางเข้าออกอาคารในลักษณะกีดขวางการจราจร มีโทษปรับ 500 บาท ขณะที่ ป.ป.ช.สั่งตั้งองค์คณะไต่สวนคดีทุบรถจอดขวางหน้าบ้านร้องเอาผิดผู้บริหารเขตประเวศ
วันที่ 22 ก.พ.2561 ผู้ว่าฯ กทม.สั่งตลาด 2 แห่ง ได้แก่ ตลาดเปิ้ลมาร์เก็ต และตลาดยิ่งนรา ยุติการค้าขายชั่วคราว ส่วนตลาดอีก 3 แห่ง มีคำสั่งยุติการค้าขายภายในวันที่ 28 ก.พ. ได้แก่ ตลาดสวนหลวง ที่ไม่มีใบอนุญาตจัดตั้งตลาด, ตลาดรุ่งวาณิชย์ ซึ่งผู้ค้าทั้งหมด 300 ราย ยินดีให้ความร่วมมือและจะจัดหาตลาดใหม่เอง
วันที่ 5 มี.ค.2561 เจ้าของบ้านทุบรถเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ที่สถานีตำรวจนครบาลประเวศ โดยถูกแจ้งข้อหา ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ ข่มขู่ทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว และพกพาอาวุธเข้าไปในเมือง หมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต รวม 3 ข้อหา ขณะที่นายอนันตชัย ไชยเดช ทนายความ ระบุว่า รับเพียงทำให้เสียทรัพย์แต่ปฏิเสธ 2 ข้อหาคือข่มขู่และพกพาอาวุธ เนื่องจากไม่มีเจตนาทำร้ายร่างกายบุคคลจึงไม่เข้าข่าย พร้อมระบุจะแจ้งความเจ้าของรถกระบะกลับ
วันที่ 7 มี.ค.2561 ศาลปกครอง มีคำสั่งเตือนผู้ว่าฯ กทม. และ ผอ.เขตประเวศ คุ้มครองชั่วคราวบ้านที่เกิดเหตุทุบรถจอดขวางหน้าบ้าน พร้อมสั่ง ผอ.เขต จ่ายค่าปรับ 5,000 บาท
วันที่ 16 พ.ค.61 ศาลปกครองกลาง มีคำพิพากษาให้ กทม.สั่งรื้อถอนอาคารตลาดทั้งหมดที่อยู่รอบบ้านของ น.ส.บุญศรี ในหมู่บ้านเสรีวิลล่า ย่านสวนหลวง ร.9 ให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน และให้ กทม.ชดใช้เยียวยาเจ้าของบ้านที่สูญเสียความสงบสุข ตลอด 7 ปี รายละ 368,400 บาท พร้อมดอกเบี้ย ร้อยละ 7.5 ต่อปี รวมเป็นเงิน 1,473,600 บาท
วันที่ 17 พ.ค.61 กทม. ยืนยันว่า จะปฏิบัติตามคำสั่งศาลทุกขั้นตอน แต่เนื่องจากมีผู้ที่เกี่ยวข้องหลายส่วน โดยคณะกรรมการจะพิจารณาเป็นรายบุคคล ซึ่งมีผู้เกี่ยวข้องทั้งสิ้น 15 คน ในการจ่ายเงินชดใช้คดีเจ้าของบ้านทุบรถ เพื่อให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย โดยเฉพาะประเด็นรื้อถอนตลาด ซึ่งขณะนี้ กทม. ยังไม่สามารถเข้าไปดำเนินการได้โดยต้องเจรจากับเจ้าของตลาดก่อนเพื่อแจ้งให้รื้อถอนเอง เนื่องจากเป็นพื้นที่เอกชนแต่หากเจ้าของตลาดไม่ยินยอมสามารถไปร้องต่อศาลเพื่อยื่นอุทธรณ์ต่อไปได้ตามกฎหมาย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
ศาลสั่ง กทม.รื้อตลาดรอบบ้านป้าทุบรถ ชดใช้ 3.6 แสนบาท