“หมอประเวศ” แนะท้องถิ่น ตั้ง “สภาเยาวชน” ฝึกเด็กคิด แสดงออก
นพ.ประเวศ วะสี ประธานคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูปประเทศไทย กล่าวปาฐกถาพิเศษแนวทางการพัฒนาระบบการศึกษาท้องถิ่นในหัวข้อ“สร้างคน สร้างชุมชน สร้างชาติ” ในงานมหกรรมการจัดการศึกษาท้องถิ่นประจำปี 2554 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้าอิมแพค เมืองทองธานี จัดโดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เทศบาลนครปากเกร็ดว่าการศึกษาของประเทศทีผ่านมา ที่เรายังไม่ประสบความสำเร็จ เพราะเรามัวใช้มโนภาพ ใช้คอนเซ็ป วิธีการท่องวิชา หรือถูกจำกัดเฉพาะเพียงโรงเรียนเท่านั้น จึงไม่มีทางที่ประสบความสำเร็จ
นพ.ประเวศ กล่าวว่า การจะเอาชุมชนท้องถิ่นเป็นตัวตั้ง เราต้องมองจากข้างล่างขึ้นมามันจะง่าย ตามจุดสำคัญของประเทศ เรามีคนเก่งๆ ในพื้นที่เป็นผู้นำชุมชนนับล้านคน ถ้าเราเริ่มการดำเนินการต่างๆ คงง่ายขึ้น หรือถ้าเรามีผู้นำท้องถิ่น เก่งและดีเข้าไปอีก คนเหล่านี้จะเป็นกำลังให้ประเทศเข้มแข็ง เมื่อคนในชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาขับเคลื่อนก็เกิดการบูรณาการ เป็นประชาธิปไตย เต็มตัว ไม่ใช่ประชาธิปไตยที่ต้องนั่งท่องในแบบเรียน การพัฒนาชุมชนท้องถิ่นให้เข้มแข็ง สามารถจัดการกับตนเองได้เลย ไม่ต้องมาวิ่งหานายกรัฐมนตรี
นพ.ประเวศ แนะว่า แต่ละท้องถิ่นควรมีการตั้งสภาเยาวชน ให้เด็กรวมตัวกันเอง ว่าจะทำอะไรกัน เช่น เรื่องศิลปะ เรื่องสิ่งแวดล้อม ให้เขาคิดเอง ทำเอง แสดงออกอย่างอิสระ ถ้าสภาเยาวชนเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายไปมาหากัน มาทุกจังหวัด ก็กลายเป็นความยั่งยืนในส่วนของความแลกเปลี่ยนความรู้ในฐานะที่เป็นอนาคตของชาติ เรื่องนี้ก็ควรอยู่ในแผนของการศึกษาชุมชนท้องถิ่นที่สามารถทำได้เลย
“ที่ผ่านมาระบบการศึกษาของเรานั้นบิดเบี้ยว อย่างเรื่องสัมมาอาชีวะศึกษา ควรที่จะเป็นสิ่งสำคัญมากว่าสามัญศึกษา แต่ประเทศไทยเป็นประเทศดูถูกคนทำงาน เป็นประเทศของชนชั้น ชนชั้นบนมักดูถูกคนทำงานชั้นล่าง ประเทศที่พัฒนาแล้ว อย่างประเทศอเมริกันเขาไม่เคยดูแคลนคนขัดรองเท้า เขาชื่นชมเพราะ ทำงานสุจริต อย่างคนจบปริญญาตอนนี้ประสบปัญหา คือทำงานไม่เป็น ไม่มีความอดทน ไม่มีความรับผิดชอบ ดังนั้นท้องถิ่นเองก็ต้องนำสิ่งที่มีอยู่ในท้องถิ่นมาสร้างสัมมาอาชีวะด้วย “นพ.ประเวศกล่าว
นอกจากนี้ระบบการจัดการชุมชนที่ต้องมีคือ ระบบเรื่องการสื่อสารท้องถิ่น ก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ ที่ต้องมีผู้เชี่ยวชาญ ทั้งเรื่องวิทยุ ชุมชน หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น เพราะหากไปฝากความหวังไว้กับสื่อระดับชาติ คงไม่เกิดผลในการขับเคลื่อน เพราะสื่อเหล่านี้ตกเป็นเครื่องมือภาคธุรกิจมากขึ้น ผู้นำท้องถิ่นขอให้ช่วยเรื่องนี้ด้วย