วันนี้ (24 พ.ค.61) นายจเร ภิญโญศิริกุล นายกสมาคมท่องเที่ยวเกาะพะงัน-เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่าในปี 2560 ที่ผ่านมามีปริมาณนักท่องเที่ยวเข้ามาที่เกาะพะงันกว่า 1.1 ล้านคน สร้างรายได้ให้กับท้องถิ่นราว 2,000 ล้านบาท ค่าเฉลี่ยการจับจ่ายใช้สอยของนักท่องเที่ยวอยู่ที่ 2,000 บาทต่อวันต่อคน พบว่านักท่องเที่ยวกว่าร้อยละ 75 หรือราว 825,000 คน เดินทางมาเพื่อเข้าร่วมกิจกรรม Fullmoon party
ทางท้องถิ่นจึงให้ความสำคัญกับการส่งเสริมกิจกรรมท่องเที่ยวใหม่เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยและใช้เวลาในการท่องเที่ยวมากขึ้น สมาคมท่องเที่ยวจึงเตรียมส่งเสริมการแบ่งพื้นที่ท่องเที่ยวเป็น 5 โซนเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวเกาะพะงัน ประกอบด้วย 1.โซนท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ บริเวณหาดธารเสด็จรวมถึงน้ำตกที่มีเรื่องราวประวัติศาสตร์ 3 แห่ง ได้แก่ น้ำตกธารเสด็จ น้ำตกธารประพาสและน้ำตกธารประเวศ คล้ายการตามรอยของรัชกาลที่ 5 ซึ่งเคยเสด็จฯมาแล้วทั้งสิ้น 14 ครั้ง 2.โซนอาหารพื้นบ้าน บริเวณบ้านโฉลกหลำซึ่งเป็นพื้นที่หมู่บ้านชาวเลเน้นกิจกรรมชิมอาหารทะเลพื้นบ้านเป็นอันซีนเกาะพะงัน 3.โซนท่องเที่ยวเชิงสุขภาพบริเวณบ้านศรีธนู ซึ่งเป็นพื้นที่สีเขียวติดกับชายหาดสวยงาม้หมาะแก่การดึงนักท่องเที่ยวสูงวัยที่มีอำนาจในการจับจ่ายใช้สอยและรักสุขภาพ โดยในพื้นที่แห่งนี้เต็มไปด้วยโรงแรมสอนโยคะและสปาแบบเฮลแคร์มากกว่า 10 แห่ง 4. โซนท่องเที่ยวเชิงชุมชนบริเวณท้องศาลา สนับสนุนการท่องเที่ยวแนวใหม่ (Community-Based Tourism) เป็นการท่องเที่ยวแบบแนบชิดชุมชนรวมถึงธรรมชาติซึ่งมีความหมายมากกว่าการพักผ่อน กระจายรายได้สู่ท้องถิ่นและพัฒนาไกด์ต้นแบบ 5.โซนฟูลมูน คือหาดริ้น
นอกจากเพิ่มกิจกรรมการท่องเที่ยวใหม่แล้วยังจะพัฒนาระบบเทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวในการเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องเที่ยงตรงเชื่อถือได้ โดยจะติดตั้งป้ายบอกข้อมูลตามจุดท่องเที่ยวต่างๆพร้อมแถบอิเล็กทรอนิกส์เชื่อมฐานข้อมูล เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวสามารถสแกนอ่านข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวผ่านมือถือและสมาร์ทโฟนได้ ที่ผ่านมาได้ร่วมมือกับหลายหน่วยงานภาครัฐแล้วน่าจะได้เห็นความชัดเจนในอีกไม่นาน ทั้งนี้การพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าวจะสามารถตอบสนองนักท่องเที่ยวกลุ่มแบ็คแพ็คที่มีพฤติกรรมการท่องเที่ยวแบบเดินทางไปเองรอบเกาะโดยไม่ใช้ไกด์ท้องถิ่น
นายเกริกไกร สงธานี นายอำเภอเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานีกล่าวว่า ล่าสุดที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้มีมติเห็นชอบประกาศให้เกาะพะงันเป็นอุทยานแห่งชาติเพื่อรักษาพื้นที่สีเขียว การประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติครั้งนี้จะทำให้สามารถส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติได้อีกหลายกิจกรรม เนื่องจากเกาะพะงันมีความสมบูรณ์ทางระบบนิเวศน์ทั้งป่าเขาน้ำทะเลตลอดจนเรื่องราวทางประวัติศาสตร์อย่างบ่อน้ำศักสิทธิ์ที่ใช้ในพิธีสำคัญของประเทศ