วันนี้ (8 มิ.ย.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีนายพายัพ รอดเมือง ผู้ป่วยติดเตียง เตรียมสละดวงตา 1 ข้างให้แก่หญิงพิการทางสายตาใน จ.บุรีรัมย์ ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน หลังจากได้เห็นเรื่องราวสภาพความเป็นอยู่ และภาระที่ต้องดูแลพ่อแม่ชรา และลูกเล็กอีก 1 คน ของหญิงชาวบุรีรัมย์คนดังกล่าวผ่านทางโทรทัศน์
น.ส.สุภาพร บุญยั่งยืน รองผู้อำนวยการศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย เปิดเผยว่า ศูนย์ดวงตาไม่สามารถรับจัดเก็บดวงตาจากคนที่มีชิวิตอยู่ แม้ผู้นั้นจะยินดีให้ก็ตาม เนื่องจากเป็นกฎระเบียบของศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทยอยู่แล้ว และผู้บริจาคไม่สามารถระบุผู้รับได้
ศูนย์ดวงตาจะเก็บดวงตาจากผู้บริจาคที่เสียชีวิตแล้วเท่านั้น โดยผู้ที่ต้องการบริจาคดวงตาต้องมาลงทะเบียนดวงตาไว้ เมื่อเสียชีวิตแล้วเจ้าหน้าที่จึงจะดำเนินการจัดเก็บตามประสงค์ของผู้บริจาค ไม่มีการที่นาย ก บริจาคให้นาย ข ข้างหนึ่งแล้วไปเก็บตาของนาย ก ไปให้นาย ข แบบนี้ไม่ได้
สำหรับกรณีนี้ น.ส.สุนิสาจะต้องไปเข้ารับการรักษากับจักษุแพทย์ในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขใกล้บ้าน เพื่อหาว่าตาบอดจากสาเหตุใด หากมีปัญหาที่กระจกตา น.ส.สุนิสา ก็สามารถขึ้นทะเบียนจองดวงตาได้ และรอรับดวงตาจากผู้บริจาคต่อไป ส่วนนายพายัพหากยังต้องการบริจาคดวงตา แม้จะไม่สามารถบริจาคให้ น.ส.สุนิสาได้แล้ว ก็สามารถขึ้นทะเบียนแสดงความจำนงบริจาคดวงตาได้ที่ ศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทยหรือผ่านทางเว็บไซต์ eyebankthai เพื่อให้ผู้ขึ้นทะเบียนจองดวงตาคนอื่นสามารถกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง
ขณะที่ น.ส.สุนิสา ระบุว่า แม้จะไม่ได้รับการบริจาคดวงตาในเร็วๆ นี้ แต่ก็ไม่เสียใจ เพราะแค่ได้รับรู้ว่ามีผู้ตั้งใจสละดวงตาให้ก็ถือว่าเป็นพระคุณ และรู้สึกว่าได้รับน้ำใจที่ยิ่งใหญ่แล้ว พร้อมกล่าวขอบคุณนายพายับ และขอให้นายพายัพมีสุขภาพแข็งแรง
ทั้งนี้ น.ส.สุนิสา ได้ขอปิดรับบริจาคเงินช่วยเหลือ หลังได้ยอดเงินกว่า 1,400,000 บาท โดยมองว่าเพียงพอแล้ว และขอให้ผู้ใจบุญบริจาคเงินช่วยเหลือคนยากจนและผู้ตกทุกข์ได้ยากคนอื่นต่อไป เพราะเงินจำนวนนี้ทำให้ชีวิตของครอบครัวบุญยั่งยืนดีขึ้นมาก
อ่านข่าวเพิ่มเติม
ผู้ป่วยติดเตียงบริจาคดวงตาให้หญิงพิการทางสายตา
กว่าล้านคน บริจาคดวงตาสภากาชาดฯ 50 ปี ใช้ได้จริง 1.2 หมื่นคน