ความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุเรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชื่อเรือภัทรมารีน 6 จมลงกลางทะเลบริเวณเกาะตาหมื่น จ.ชลบุรี เมื่อกลางดึกวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทำให้เรือจมพร้อมกับตู้คอนเทนเนอร์ 72 ตู้ โดยหลายหน่วยงานลงไปเก็บกู้ และเตรียมป้องกันคราบน้ำมันที่มีประมาณ 5,000 ลิตรรั่วไหลทะเล จนกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
วันนี้ (15 มิ.ย.2561) นายพิทักษ์ วัฒนพงศ์พิศาล ผู้อำนวยการสำนักงานควบคุมการจราจรและความปลอดภัยทางทะเล กรมเจ้าท่า กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบคราบน้ำมันจากเรือ ส่วนสินค้าในตู้ได้รับรายงานว่าเป็นประเภทสินค้าทั่วไป ไม่ใช่ตู้สารเคมี ที่จะทำให้เกิดมลพิษทางน้ำ แต่เพื่อความไม่ประมาทได้ส่งเจ้าหน้าที่ดำลงไปสำรวจ และป้องกันการไหลของน้ำมันจากเรืออีกครั้ง
โดยแบ่งทีมออกตรวจเรือดำน้ำลงไปสำรวจตัวเรือว่าภายในเรือยังคงมีตู้คอนเทนเนอร์อีกกี่ตู้ ดูลักษณะเรือที่จม ทีมเก็บกู้ตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งกำลังทยอยเก็บกู้ เบื้องต้นเก็บได้แล้ว 21 ตู้ และทีมออกตรวจตราซึ่งจะค่อยเฝ้าระวัง เพื่อตั้งจุดหรือวางเครื่องหมายไว้ และคอยแจ้งเตือนผู้สัญจรเรือไปมา
ด้านนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า ได้สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนการเกิดเหตุเรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์จมลงบริเวณเกาะท้ายตาหมื่น จ.ชลบุรี และให้รายงานสาเหตุ มาตรการ แนวทางแก้ไข ป้องกันการเกิดเหตุภายใน 7 วัน
ส่วนตู้คอนเทนเนอร์ 72 ตู้ และเรือที่จมอยู่ใต้ทะเล ศูนย์ความปลอดภัยทางทะเล กรมเจ้าท่าได้ตั้งศูนย์บัญชาการ เพื่อเร่งกู้ตู้คอนเทนเนอร์ และเรือขึ้นจากทะเล ทั้งนี้ได้รับรายงานเบื้องต้น ยังไม่พบการรั่วไหลของคราบน้ำมัน สำหรับสาเหตุที่ทำให้เรือล่ม เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ช่วงเวลาที่เกิดเหตุคลื่นลมแรง ทำให้น้ำเข้าเรือจำนวนมาก และรับน้ำหนักไม่ไหวจนจมลงสู่ทะเล ไม่ได้มีเหตุการณ์เรือสินค้าชน แต่เจ้าหน้าที่ก็จะตรวจสอบเพื่อความแน่ชัดอีกครั้ง
ขณะนี้ได้นำทุ่นลอยน้ำไปแล้วผูกบริเวณจุดที่เรืออับปาง เพื่อแจ้งเตือนเรือที่สัญจรผ่าน พร้อมกับจะหารือกับบริษัทเจ้าของเรือเพื่อประเมินสถานการณ์ในการเกู้เรือและตู้สินค้าที่จม ขณะที่บริษัทเจ้าของเรือ เตรียมว่าจ้างนักประดาน้ำที่เชี่ยวชาญลงไปสำรวจความเสียหายของตัวเรือ และป้องกันน้ำมันรั่วไหลออกนอกตัวเรือ โดยจุดที่เรือจมเป็นร่องน้ำลึกประมาณ 20 เมตร ซึ่งจะเริ่มการดำสำรวจทันทีหลังคลื่นลมในทะเลอ่อนกำลังลง
ด้านนายปรีชา ประสพผล กรรมการผู้จัดการเรือภัทรมารีน 6 กล่าวว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ จะต้องรอคณะกรรมการที่กรมเจ้าท่าตั้งขึ้นมา เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุที่เกิดขึ้นว่าเพราะสาเหตุใด ที่สำคัญทางบริษัททางบริษัทไม่มีการขนส่งสินค้าอันตราย หรือสารเคมีอย่างแน่นอน นอกจากนั้นทางบริษัทได้ทำประกันภัยไว้ ดังนั้นปัญหาที่เกิดขึ้นจึงต้องเร่งดำเนินการแก้ไขโดยด่วน เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม และการสัญจรของเรือต่างๆ ส่วนความเสียหายนั้น ในเบื้องต้นประมาณ 50-70 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากใบรายงานสินค้าที่บรรจุในตู้คอนเทนเนอร์ พบว่าเป็นสินค้าประเภทข้าว แป้งสาลีชนิดแข็ง ถั่วเหลืองไม่ดัดแปลงพันธุกรรม ธัญพืชหมักยีสต์ใช้ทดแทนอาหารสัตว์
อ่านข่าวเพิ่มเติม
เรือล่มตู้คอนเทนเนอร์ 72 ตู้ลอยทะเลใกล้เกาะค้างคาว จ.ชลบุรี