ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากสำนักงาน กสทช. มีหนังสือส่งถึง บริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการโทรคมนาคม เครือข่าย "ดีแทค" ให้แจ้งประชาสัมพันธ์เตือนลูกค้าที่ใช้บริการเครือข่ายดีแทค ให้ย้ายเครือข่าย เนื่องจากจะสิ้นสุดสัมปทานวันที่ 15 ก.ย.61 นี้ สำหรับการใช้งานคลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิรตซ์ และ 850 เมกะเฮิรตซ์
ผู้สื่อข่าวตรวจสอบไปที่บริษัทดีแทค ยืนยันว่า สัมปทานที่จะสิ้นสุดลงมีผลต่อลูกค้าจำนวนประมาณ 4.3 แสนราย ที่ต้องย้ายเครือข่ายไปอยู่คลื่นอื่น แต่ยังเป็นเครือข่ายดีแทคได้ เพราะขณะนี้ ดีแทค มีคลื่นความถี่ที่ให้บริการอีก 2 คลื่น ได้แก่ คลื่น 2100 เมกะเฮิรตซ์ ที่ให้บริการ 3G และ 4G ซึ่งได้ประมูลใบอนุญาตกับ กสทช.เมื่อปี 56
นอกจากนี้ ยังมีคลื่นความถี่ 2300 เมกะเฮิรตซ์ ที่ทำร่วมกับ TOT เน้นให้บริการ 4G และคลื่นนี้ยังรองรับเทคโนโลยี 5G ได้ในอนาคต แต่แผนดำเนินการจะเริ่มวางเสาโครงข่ายได้ภายในสิ้นปีนี้ ประมาณ 7,000 เสา หรือ คิดเป็นร้อยละ 40 ของพื้นที่โครงข่ายที่ดีแทคให้บริการ และจะให้เวลาดำเนินการครอบคลุม 100% ภายใน 1-2 ปี
แหล่งข่าวจากดีแทค ยืนยันว่า กลุ่มลูกค้าที่ได้อยู่ภายใต้คลื่น 1800 และ 850 เมกะเฮิรตซ์ ตามสัมปทานนี้ ที่จะสิ้นสุดในเดือน ก.ย.61 มีจำนวน 4.3 แสนราย จากลูกค้าดีแทค ที่มีในระบบทั้งหมด 21.8 ล้านราย โดยลูกค้าสามารถย้ายมาใช้บริการของเครือข่ายดีแทคได้อยู่ แต่เป็นการให้บริการภายใต้คลื่น 2100 และ 2300 เมกะเฮิรตซ์ หรือ การย้ายค่ายไปเครือข่ายผู้ให้บริการอื่น
เมื่อถามว่า ลูกค้าจะทราบได้อย่างไรว่า เลยหมายดีแทคที่ใช้งานอยู่จะได้รับผลกระทบในครั้งนี้ แหล่งข่าวระบุว่า ให้สังเกตจากข้อความสั้น (SMS) ที่ทางดีแทคได้แจ้งให้ลูกค้ารับทราบโดยมีเนื้อหาประมาณว่า "เลขหมายของท่านกำลังจะสิ้นสุดการใช้งานในวันที่ 15 ก.ย.61 ตามอายุสัมปทานของดีแทค ขอให้ท่านย้ายเครือข่ายการใช้งาน" ซึ่งเป็นข้อความที่แหล่งข่าว อ้างว่าได้ส่ง SMS แจ้งเตือนลูกค้ามาต่อเนื่องในช่วง 2 ปีมานี้ เนื่องจากรับทราบล่วงหน้าแล้วว่า คลื่น 1800 จะหมดสัมปทาน