วันนี้ (28 มิ.ย.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปฏิบัติการค้นหา 13 ชีวิตที่ยังติดอยู่ภายในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ล่วงเข้าสู่วันที่ 6 ท่ามกลางความช่วยเหลือจากทุกหน่วยงานที่ทำงานอย่างเต็มที่ตลอด 24 ชั่วโมง
หนึ่งในความช่วยเหลือที่สนับสนุนข้อมูลของถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน คือ เวิร์น อันสเวิร์ธ นักสำรวจชาวชาวอังกฤษ ซึ่งเป็นนักสำรวจถ้ำ และเคยเข้าไปสำรวจในถ้ำหลวงที่เกิดเหตุ และเป็นเจ้าของคลิปโดยได้เข้าไปสำรวจบริเวณภายในถ้ำ เมื่อ 2 ปีก่อน เพื่อหาข้อมูลต่างๆ ของถ้ำนี้ เพื่อวางแผนก่อนเดินทางและหาโพรงอากาศจากน้ำ โดยได้จัดชุดตำรวจ ตดช. นำทาง พร้อมสุนัขดมกลิ่นขึ้นไปช่วยปฏิบัติภารกิจด้วย
นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านการกู้ภัยในถ้ำ 3 คน จาก Derbyshire cave rescue มาช่วยค้นหาโพรงหลังคาถ้ำ หลังได้พบกับ พล.ต.อ.วิระชัย พร้อมกำลังพลจากตำรวจตระเวนชายแดน ตำรวจพลร่ม หน่วยรบพิเศษเจ้าหน้าที ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ทีมกู้ภัยกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้สนธิกำลังออกลาดตระเวนค้นหาโพรงถ้ำเพิ่มเติมบนบ้านผาหมี
เพื่อให้ทีมช่วยเหลือเข้าไปในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ทางด้านขวาของตัวถ้ำ เพื่อหาช่องทางในการค้นหาและช่วยเหลือ นักฟุตบอลและโค้ช รวม 13 ชีวิต ที่ติดค้างภายในถ้ำ โดยญาติของเด็กๆนำเสื้อผ้า รองเท้าและของใช้ส่วนตัวมามอบให้ทีมค้นหา ใช้ในการเตรีบมให้สุนัขดมกลิ่นเข้าหาทันทีหากพบโพรงถ้ำ
ไทยพีบีเอส พูดคุยกับทีมสำรวจถ้ำชาวอังกฤษ สรุปการทำงานตลอด 5 วัน ประเมินข้อมูลใช้วิธีการศึกษาจากพฤติกรรมของเหตุการณ์ และหลักฐานที่พบวิเคราะห์ได้ดังนี้
แผนที่ภายในถ้ำ ขณะนี้ค่อนข้างมีความชัดเจนว่าภายในถ้ำ แบ่ง ออกเป็น 2 ทางหลัก ซ้ายที่กำลังค้นหา และทางขวาระยะทางเส้นทางต่างๆ ในถ้ำ จากปากทางถ้ำหลวง เดินเข้าไปในถ้ำ ระยะแรก เดินเท้า 3 กิโลเมตร ก่อนถึงทาง 3 แยก มีน้ำขวางทางท่วมเต็ม เสมือนเป็นทางไหลเดิมของน้ำในถ้ำหลวง เนื่องจากในฤดูน้ำหลาก ภายในถ้ำจะเต็มไปด้วยน้ำ และการไหล ซึ่งจะพาตะกอนดินมาทับถม ตามแนวผนังถัง จนเกิดเป็นเนินดินสูงๆ ต่ำๆ
ระยะทางในถ้ำ ช่วง 3 กิโลเมตรแรก พบหลักฐานยืนยันการเข้าไปของ 13 ชีวิต 2 อย่างจักรยาน กระเป๋าเป้ และ รองเท้าฟุตบอลจำนวนหนึ่ง ห่างไปอีกจุด พบรองเท้าแตะ เด็กๆ วางเรียงกัน น่าสังเกตที่การวางเรียง จัดวางแบบไม่ปกติ การวางรองเท้า น่าจะเกิดขึ้นก่อนระดับน้ำขึ้นสูงจนปิดทาง จุดสังเกต คือ รองเท้าวางไม่ห่าง ส่วนที่มีน้ำท่วม
ภูมิศาสตร์ภายในถ้ำหลวงและแนวการไหลของน้ำ เป็นแนวจากที่สูงลงที่ต่ำตามธรรมชาติทางไหลของน้ำจากนอกถ้ำหลวง พบส่วนหนึ่งที่น้ำไหลเข้าไป คือด้านขวาของแผนที่ สันนิษฐานเป็นทางไหลของน้ำเข้าไปในถ้ำหลวง
ช่วงวันแรกๆ ทหารพยายามไปเบี่ยงทางน้ำในจุดนั้นแล้วและมีน้ำไหลเข้าไปได้มาก ย่อมมีโพรงหินปูนและที่สำคัญ สันนิษฐานว่าอาจเป็นที่สูงกว่าฝั่งเส้นทางด้านซ้าย เพราะเป็นทางตัน แม้ระยะทางไกลกว่าแต่นั่นก็หมายถึงเป็นการไหลของน้ำ ทำให้กัดเซาะเป็นเวลานาน เป็นที่ทับถมของตะกอนทราย และเนินดิน
เมื่อดูจากแผนที่ การค้นหาในระยะแรกๆ ไปทางด้านซ้าย มีอุปสรรคน้ำขวางทาง ต้องใช้ทีมประดาน้ำ เป็นช่วงๆ สลับเดินเท้า คืบคลานไปตามแนวเนินดิน แต่ก็ไปได้ไม่สุดทาง หรือถึงห้องโถงใหญ่ เพราะมีน้ำขวาง เป็นระยะๆ บางจุดลึกมาก 3-5 เมตร ตามแนวกัดเซาะผนังถ้ำ
นักประดาน้ำยังไปไม่ได้ เพราะมืดสนิท ทางคดเคี้ยวตามแนวหินงอก หินย้อยน้ำผสมโคลนอันตรายและเสี่ยงมากๆ ต้องไปแบบดำน้ำ มือคลำผนัง และนักประดาน้ำถอยร่น หลายครั้ง เมื่อฝนตกน้ำขึ้นสูงเพื่อหาจุดที่ปลอดภัยกว่า
แต่เมื่อคุยต่อถึงความเป็นไปได้อื่นๆ และทฤษฏีของความเป็นไปได้ จากพฤติกรรมของเด็กๆเรามีข้อมูลว่า พฤติกรรมเด็กๆ เคยเข้ามาเที่ยวเล่นในถ้ำบ่อยๆ และเคยชินกับสถานที่ภายในถ้ำ โดยวันที่เด็กๆ เข้าไปถ้ำ เกิดขึ้นหลังจากเล่นฟุตบอล และเป็นเวลาบ่าย ประมาณบ่ายโมง การเข้าไปไกลมาก ทางซ้าย อาจมีน้ำ แม้มีรอยเท้า ในเนินจุดห้องโถงกลาง แต่ก็ยังไม่มีอะไรพิสูจน์ได้ว่า เป็นรอยเท้าเด็กๆ 13 คน
นอกจากนี้พฤติกรรม น่าสังเกตอีก อย่างเมื่อเทียบเคียง ระยะการท่วมของน้ำในถ้ำไม่ได้ไหลบ่าแบบน้ำหลาก แต่ไหลมาตามรอยแตกของผนังหินปูน เหนือถ้ำหลวง
ข้อมูลจาก ผู้เชี่ยวชาญที่เคยสำรวจถ้ำแนวถ้ำ เกิดตามทางไหลของน้ำ ด้านเส้นทางแยก เป็นอีกจุดที่น่าสนใจเป็นเนินดินสูงๆ ต่ำๆ เป็นช่วงๆ เช่นเดียวกัน เด็กๆทั้ง 13 ชีวิต อาจรู้อยู่แล้วว่า มาเที่ยวถ้ำหลวง ตอนบ่ายๆ ไม่คาดว่า จะอยู่นาน จึงอาจไม่ได้ไปทางด้านซ้ายซึ่งไกลมากถึง 4 กิโลเมตร
ทฤษฏีที่ว่าเป็นไปได้ หรือไม่ เด็กๆ อาจไปด้านขวา และเมื่อระดับน้ำค่อยๆเพิ่มระดับขึ้นจนปิดทาง 3 แยก จึงถอยกลับไปหาที่สูงจึงน่าสนใจ แต่จะเป็นไปได้อย่างไร เมื่อขณะนี้ น้ำขึ้นสูงจนเกือบเต็มถ้ำหลวง
ข้อมูลที่ผู้เชี่ยวชาญถ้ำ คือ ทางเดินฝั่งขวาที่มีระยะทางยาว 3 กิโลเมตร เมื่อเดินไปประมาณ 700 เมตรจะมีห้องโถงห้องที่ 1 ที่มีขนาดความสูง 30 เมตร กว้าง 2 เมตร ส่วนถัดไปหากเดินต่ออีกประมาณ 1.25 กิโลเมตร จะมีอีก 1 โถงใหญ่ที่มีขนาดความสูง 50 เมตร และทั้ง 2 โถงนี้เจ้าหน้าที่เชื่อว่าจะต้องมีปล่องอากาศ และก็มั่นใจว่าใน 2 โถงนี้อาจจะเจอกับ 13 ชีวิตผู้สูญหาย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
"เจาะเพดานถ้ำ" เปิดความกว้าง 100 เมตร ทะลุพัทยาบีช