วันนี้ (1 ก.ค.61) นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เขต 1 กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการปรับแผนการช่วยเหลือทีมหมูป่าทั้ง 13 คน ในถ้ำหลวงใหม่ โดยเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ไปยังโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ เพราะจะสามารถขนย้ายทั้ง 13 คนได้อย่างรวดเร็ว ภายใน 15-30 นาที หากเดินทางโดยรถยนต์ต้องใช้เวลา 1 ชั่วโมง
จากการประเมินสถานการณ์เบื้องต้น หากเจอเยาวชนทั้ง 13 คน น่าจะมีอาการอ่อนแรงเพราะขาดอาหารและน้ำ แต่หากมีบาดแผลตามร่างกายก็จะทำแผลที่ รพ.สนาม และต้องประเมินสภาร่างกายของแต่ละคน รวมทั้งต้องดูเรื่องระบบทางเดินหายใจ เพราะในถ้ำมีอากาศอับชื้น และไม่ทราบว่าภายในถ้ำมีเชื้ออะไรอยู่หรือไม่ ส่วนด้านสายตานั้น การไม่ได้เจอแสงแดดมาหลายวัน ย่อมมีผลกับสายตา โดยขณะอยู่ในที่มืด ม่านตาจะขยาย ฉะนั้นเมื่อออกมาภายนอกต้องมีการปิดดวงตา เพื่อให้ดวงตาปรับสภาพ แต่ไม่ส่งผลมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ในพื้นที่เจ้าหน้าที่แพทย์และรถพยาบาล นำอุปกรณ์การแพทย์มาเตรียมไว้บนเฮลิคอปเตอร์ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมหากสามารถช่วยเหลือ ผู้สูญหายทั้ง 13 คนได้
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ นพ.เจษฎา โชคดำรงสุขปลัดกระทรวงสาธารณสุข ส่งความห่วงใยและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล และสหวิชาชีพ ที่ออกปฏิบัติงานร่วมกับทหาร ตำรวจ อาสาสมัคร และภาคประชาชน กำชับให้ประสานและสนับสนุนการทำงานของทุกภาคส่วนอย่างเต็มที่ เพื่อช่วยเหลือทีมนักฟุตบอลเยาวชนและผู้ฝึกสอน 13 คน ที่พลัดหลงในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย
ในวันนี้ (1 ก.ค.61) ทีมแพทย์จากกระทรวงสาธารณสุขภายใต้การสั่งการของ นพ.ธงชัย ได้ร่วมกับทุกหน่วยงานในพื้นที่ เตรียมการรองรับการช่วยเหลือนำผู้พลัดหลงออกจากถ้ำ โดยจัดพื้นที่สำหรับการปฏิบัติงานของทีมแพทย์กู้ชีพ พร้อมอุปกรณ์การแพทย์ เพื่อให้การดูแลเบื้องต้นก่อนการส่งต่อไปโรงพยาบาล ส่วนที่บริเวณปากถ้ำและทางปล่องได้จัดเตรียมรถพยาบาลขั้นสูงครบจำนวนคนและเฮลิคอปเตอร์สำหรับการส่งต่อโรงพยาบาล หลังจากทั้งหมดได้รับการดูแลเบื้องต้นแล้วจะนำส่งไปดูแลรักษาต่อที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ทันที ทางเฮลิคอปเตอร์ หรือรถพยาบาล ตามสภาพอากาศ โดยสำรวจเส้นทางและซักซ้อมการเดินทางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สำหรับที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ได้เตรียมพร้อมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทุกสาขาที่เกี่ยวข้อง เตรียมหอผู้ป่วยอุบัติเหตุแยกเฉพาะรองรับทั้ง 13 คน เตรียมผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ จากสำนักงานควบคุมป้องกันโรค พร้อมปฏิบัติงานได้ทันที นอกจากนี้ ยังได้เตรียมพร้อมโรงพยาบาลรอบๆ จุดเกิดเหตุทั้งโรงพยาบาลแม่สายและโรงพยาบาลแม่จัน รองรับการส่งต่ออีกด้วย