วันนี้ (5 ก.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีมเก็บรังนกจากเกาะลิบง บ้านเกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง จ.ตรัง จำนวน 8 คน ถูกเรียกตัวในระหว่างอยู่ที่สนามบินเชียงราย เพื่อรอกลับ จ.ตรัง ก็มีโทรศัพท์สายด่วนจากทหาร ขอให้กลับมาช่วยภารกิจหน่วยซีล ในการโรยตัวช่วยน้องๆ ทีมหมูป่าอะคาเดมีทั้ง 13 คนที่ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย อีกครั้ง
นายสวัสดิ์ ทวีรัตน์ ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช บอกว่า ตั้งแต่เวลา 09.00 น.ทีมเก็บรังนกนางแอ่น จากเกาะลิบง พร้อมทหาร และทีมกู้ภัยกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช อีก 15 คน ได้ออกเดินทางไปสำรวจโพรงถ้ำเหนือถ้ำหลวง มุ่งหน้าไปทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ บนดอยผาหมี เพื่อหาจุดที่คาดว่าจะมีปล่องโพรง เพื่อปีนลงไปบริเวณใกล้เคียงเนินนมสาว ที่พบทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมีทั้ง 13 ชีวิตติดอยู่
ผมเคยเดินไปสำรวจเส้นทางขึ้นเขา มีความลาดชัน รถเข้าถึงจุดแค่ 2 กิโลเมตร จากนั้นต้องเดินขึ้นเขาไปบนดอยผาหมี และการปีนโพรงปล่องถ้ำ จะต้องอาศัยความชำนาญมาก เท่าที่ทราบทีมนักเก็บรังนก ได้เคยลงไปในถ้ำโพรงที่ทหารสำรวจเอาไว้แล้ว แต่ยังไม่ยืนยันว่าเป็นปล่องไหน ขณะนี้ต้องรอทีมสำรวจกลับมารายงานให้กับผู้ว่าฯเชียงราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับทีมเก็บรังนกนางแอ่นบ้านเกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง ทั้ง 8 คน นำโดยนายอับดลรอหีม ขุนรักษา กำนันเกาะลิบง นายสมรักษ์ จิเหลา นายวิโรจน์ จิเหลา นายสัมพันธ์ ผอมเขียว นายสมรักษ์ จิเหลา นายรอหมาย คงเหลา นายสัณฐิติ จิเหลา นายมะแอน คงเหลา ออกเดินทางจากเกาะลิบง ด้วยการโดยที่ระดมทุนมากันเอง พร้อมกับนำเอา เอาใบอนุญาตมาด้วย เพื่อใช้วิชาชีพที่ถนัดโรยตัว เพื่อช่วยค้นหาน้องๆ ทีมหมูป่าทั้ง 13 คน
โดยหนังสือรับรองโดยนายชัยพฤกษ์ วีระวงศ์ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมูเกาะลิบง จ.ตรัง ซึ่งระบุว่าได้รับการประสานจากชาวบ้านในเกาะลิบง 8 คน และขอยืนยันว่าทั้ง 8 คนมีความรู้ด้านการขึ้นถ้ำลงถ้ำ ลงจากที่สูง ลงจากที่ลึก จึงขอรับรองว่าเป็นบุคลากร ที่มีความชำนาญจริง และรับรองว่าชาวบ้านทั้ง 8 คนไม่เรียกร้องผลที่จะเกิดขึ้นจากกระทำใดๆ โดยพวกเขาเดินทางจาก จ.ตรัง
ทุกคนมาด้วยหัวใจ และมีความสามารถจึงอยากนำความรู้ความชำนาญ และภูมิปัญญาท้องถิ่นการขึ้นรังนก ของตัวเองมาช่วยน้องๆออกจากถ้ำให้ได้
มีข้อมูลที่ทีมรังนกให้สัมภาษณ์ในเพจเฟชบุ๊ก ประชาสัมพันธ์เชียงราย บอกว่า จุดที่เด็กอยู่มีอากาศดี และมีทางออกทางด้านบนได้ เลยได้ยินเสียงไก่ขัน เราต้องลงไปดู
เสียงไก่ขันที่เด็กๆทีมหมูป่าได้ยิน และถ่ายทอดสู่เจ้าหน้าที่ขณะอยู่ภายถ้ำ เป็นข้อมูลหนึ่งที่ชี้ว่าอาจมีปล่องจากภายนอก ที่เชื่อมสู่เนินนมสาว จุดที่ทุกคนอยู่ภายในถ้ำได้
และเมื่อวานนี้(4 ก.ค.) ในระหว่างที่อยู่สนามบินแม่ฟ้าหลวง เชียงราย นั่งรอกำลังจะขึ้นเครื่องอีก 30 นาที กำลังจะบินขึ้น โดยสายการบินไทยสมายล์ เที่ยวบินที่ WE 131 เชียงราย – สุวรรณภูมิ ก็มีสายโทรศัพท์ ขอให้กลับมาช่วยภารกิจค้นหาเด็กๆ
ก่อนหน้านี้พวกเขาบอกว่า จะปักหลักทำภารกิจจนกว่าจะเจอทั้ง 13 ชีวิตจะไม่กลับเด็ดขาด ค่าใช้จ่ายจะขอรับผิดชอบกันเอง ไม่อยากรบกวนผู้ใด
นี่จึงเป็นอีกครั้งที่จิตอาสาจากเกาะลิบง จะได้ใช้ทักษะความชำนาญในการปีนป่ายถ้ำ ที่สั่งสมมานานกว่า 30 ปี ช่วยเหลือผู้ประสบภัย หลังจากที่ได้แสดงทักษะโรยตัวตามปล่องถ้ำด้วยเชือกเส้นเดียวมาแล้วในปฏิบัติการร่วมค้นหาก่อนหน้านี้
