วันนี้ (23 ก.ค.61) พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยถึงการตรวจสอบกรณีบริษัทมิตซูบิชิ ฮิตาชิ พาวเวอร์ ซิสเต็ม จ่ายสินบนให้กับเจ้าหน้าที่ทางการของไทย มูลค่า 20 ล้านบาท ว่า คดีนี้คณะกรรมการตั้งเป็นองค์คณะเต็มในการพิจารณา โดยมีข้อมูลหลักฐานที่เป็นภาพถ่ายการรับสินบน ล่าสุดแจ้งข้อกล่าวหาบุคคลที่เกี่ยวแล้ว 4-5 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบพยานหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง คาดว่าจะแล้วเสร็จเร็วๆ นี้
ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมนั้น ประธาน ป.ป.ช.ปฏิเสธยื้อเวลาในการดำเนินการตรวจสอบ แต่จะต้องหาข้อมูลพยานหลักฐานให้ครบถวน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาภายหลัง จากรายงานของคณะทำงานได้เข้าสู่ที่ประชุมกรรมการ และกรรมการมีมติใช้ระเบียยบว่าด้วยการตรวจสอบทรัพย์สินว่าเอกสารที่มีอยู่ในตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยยังไม่มีข้อมูล จึงต้องขอข้อมูลกับบริษัทผู้ผลิตในแต่ละยี่ห้อโมเดลว่า จำหน่ายสินค้าให้กับผู้ใด เพื่อเป็นการยืนยันที่มาความเป็นเจ้าของ
อย่างไรก็ตาม หากบริษัทผู้ผลิตปฏิเสธให้ข้อมูลกับ ป.ป.ช.ต้องมาพิจารณาหาทางอื่น หรือคณะกรรมการวินิฉัยตามข้อมูลหลักฐานเท่าที่มีอยู่ คาดว่าใช้เวลาไม่นานในการรอข้อมูลจากต่างประเทศ ซึ่งบริษัทส่วนใหญ่เป็นเอกชนที่พร้อมให้ข้อมูล โดยกรอบเวลาที่รอข้อมูลจากต่างประเทศไม่มีกำหนดแน่ชัด แต่การดำเนินการที่ผ่านมาบางหน่วยงานได้ให้ข้อมูลอย่างรวดเร็ว
"การดำเนินการขอข้อมูลระหว่างประเทศค่อนข้างล่าช้ามาก เพราะเป็นการไต่สวนที่ต้องขอความร่วมมือผ่านสำนักงานอัยการสูงสุด และขอความร่วมมือระหว่างประเทศ เช่น คดีสนามฟุตบอลฟุตซอล ที่ต้อ'ขอความร่วมมือประเทศในแถบยุโรป ปรากฎเงื่อนไขที่ทางนั้นไม่ให้ข้อมูล เพราะว่าไทยมีโทษประหารชีวิต แม้ไทยจะมีกฎหมายที่กำหนดว่าคณะรัฐมนตรีสามารถให้คำมั่นได้"
ส่วนคดีสินบนโลว์สรอยซ์ พล.ต.อ.วัชรพล ระบุว่ายังดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพราะบางประเด็นเป็นเรื่องที่เกิดมานานพอสมควร ทำให้หาพยานเอกสารหลักฐานค่อนข้างยาก และต้องระวังผลกระทบในการดำเนินคดีของระเทศนั้น