วันนี้ (28 ส.ค.2561) อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า ประเทศไทยกำลังขยับเข้าสู่สังคมไร้เงินสดมากขึ้นเรื่อยๆ จากยอดผู้ใช้พร้อมเพย์ที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง กว่า 44.3 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าโอนเงินผ่านระบบนี้สูงกว่า 2.6 ล้านล้านบาท ทั้งหมด 525 ล้านรายการ ทำให้คณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์แนทชั่นอีเพลย์เม้นท์ เตรียมขยายวงเงินยกเว้นค่าธรรมเนียมโอนผ่านพร้อมเพย์ จาก 5,000 บาท เป็น 700,000 บาท ในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า เพื่อรองรับการปรับลดระยะเวลาได้รับเงินโอนจากธุรกรรมการซื้อขายหลักทรัพย์
ขณะที่เตรียมเปิดตัวลูกเล่นใหม่ซึ่งต่อยอดจากพร้อมเพย์ โดยประชาชนสามารถชำระค่าน้ำ ค่าไฟโดยไม่ผ่านธนาคารหรือบริการเคาเตอร์เซอร์วิสอีกต่อไป ช่วยลดภาระค่าธรรมเนียมบริการ คาดว่าจะเริ่มใช้ในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า
ส่วนความคืบหน้าโครงการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า รัฐบาลต้องเลื่อนกำหนดโครงการ ออกไปก่อน เดิมจะเริ่มดำเนินการ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2561 เป็นวันที่ 1 พ.ย.2561 เเต่จะขยายเวลาดำเนินโครงการจากเดิม 3 เดือนด้วย เนื่องจากกรมสรรพากรอยู่ระหว่างวางระบบรองรับนโยบายลดหย่อนภาษีในอนาคต
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังเตรียมดึงโครงการสละการรับเบี้ยผู้สูงอายุ จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หลังพบว่า ยอดสละการรับเบี้ยฯ น้อยมาก คาดว่าเป็นผลจากประชาชนขาดความเชื่อมั่นจากเหตุการณ์ในคดีทุจริตเงินออมชราภาพของผู้ประกันตน เเต่หากใครประสงค์สละเบี้ยผู้สูงอายุ สามารถแจ้งความจำนงค์ต่อธนาคารที่เข้าร่วมโครงการได้ทันที