วันนี้ (28 ส.ค.2561) นายไซเอ็ด ฮุสเซน ชาวโรฮิงญา วัย 52 ปี ในค่ายผู้อพยพในบังกลาเทศเปิดเผยความรู้สึกพอใจที่คณะสืบค้นข้อเท็จจริงของสหประชาชาติ ระบุในรายงานที่ออกมาล่าสุดว่าคณะผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา ควรถูกดำเนินคดีข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่
โดยฮุสเซนบอกว่าต้องการให้ชาวโรฮิงญาได้รับความยุติธรรม จากการถูกกองทัพเมียนมาสังหารและล่วงละเมิดทางเพศ
แม้ว่าชาวโรฮิงญาส่วนใหญ่จะพอใจกับผลการสืบค้นข้อเท็จจริงของคณะทำงานสหประชาชาติ แต่ก็มีผู้อพยพชาวโรฮิงญาบางคนอย่างโมฮัมหมัด ตายูบ ซึ่งหนีความรุนแรงในรัฐยะไข่เข้ามาพักพิงที่ค่ายผู้อพยพในบังกลาเทศเมื่อปีที่แล้ว ที่ไม่เชื่อว่าคณะผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมาจะถูกลงโทษตามกฏหมาย
การเปิดเผยความรู้สึกของชาวมุสลิมโรฮิงญา มีขึ้นหลังคณะสืบค้นข้อเท็จที่ทำงานภายใต้คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เปิดเผยรายละเอียดการสืบสวนกรณีทหารรัฐบาลเมียนมากระทำทารุณต่อชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่
โดยมีหลักฐานจากคำบอกเล่าของโรฮิงญาพลัดถิ่น รวมทั้งภาพถ่ายดาวเทียมและข้อมูลอื่นๆ ที่รวบรวมได้ ซึ่งแสดงให้เห็นการกระทำทารุณ ล่วงละเมิดทางเพศ เผาหมู่บ้าน และสังหารเด็กต่อหน้าพ่อแม่