วันนี้(30 ส.ค.2561) พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (รองผบช.ทท.) กล่าวว่า ได้เข้าพบกงสุลใหญ่ ประจำสถานทูตอังกฤษ เพื่อประสานขอข้อมูล โดยได้นำหลักฐานจากการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุกรณี น.ส.อิสซาเบล วัย 19 ปี ผู้เสียหายชาวอังกฤษ นำไปให้สัมภาษณ์กับสื่อ และแจ้งความกับตำรวจอังกฤษว่าถูกล่วงละเมิดทางเพศบนเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี นำไปมอบให้กับกงสุล
จากพยานหลักฐานทั้งหมดพบว่ามีความขัดแย้งกับข้อมูลที่ น.ส.อิสซาเบล แจ้ง พร้อมกันนี้จากพยานหลักฐานที่ตำรวจตรวจสอบ ทำให้สามารถสรุปได้ว่าไม่มีการวางยา และข่มขืน น.ส.อิสซาเบลจริง เช่น ภาพถ่ายหาดทรายรี พบว่าวันเกิดเหตุน้ำท่วมสูงไม่สามารถไปนั่งบริเวณชายหาดได้
หลังจากนี้ ทางสถานทูตอังกฤษ จะประสานไปยังผู้เสียหาย เพื่อนำหลักฐาน เช่น เสื้อผ้าที่มีคราบอสุจิติดอยู่ รวมถึงคำให้การที่ผู้เสียหายให้การไว้กับตำรวจอังกฤษ ส่งกลับมายังประเทศไทย เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบคาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือน
จ่อฟ้อง 2 เพจชี้กระทบภาพลักษณ์ไทย
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ระบุว่าส่วนเรื่องที่แม่ของผู้เสียหายจะเดินทางมาไทยเพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีจะไม่มีผลต่อรูปคดี เนื่องจากแม่ของผู้เสียหายนั้นไม่ใช่พยานบุคคลที่สำคัญ นอกจากนี้พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งตั้งคณะทำงานเพื่อเดินทางไปสอบปากคำหญิงสาวชาวอังกฤษที่ประเทศอังกฤษ
กรณีที่พบว่ามีเพจชื่อดัง 2 เพจมีการโพสต์ข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับคดีดังกล่าว เป็นการทำลายภาพลักษณ์ ตำรวจเตรียมที่จะออกหมายจับเจ้าของเพจทั้ง 2 เพจ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พิสูจน์ทราบแล้วว่าเป็นใคร
นอกจากนี้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า กงสุลใหญ่ประเทศอังกฤษ ชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ ในการหาข้อเท็จจริงดังกล่าว แม้ว่าสาวชาวอังกฤษจะไม่มีการแจ้งข้อหาข่มขืน แต่ตำรวจของไทยก็สามารถหาพยานหลักฐานมาหักล้าง และยังทำงานกันอย่างเต็มที่
อ่านข่าวเพิ่มเติม
"ประวิตร" สั่งหาความจริงคดีข่มขืนชาวอังกฤษบนเกาะเต่า