พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้ติดตามคดีนี้ด้วยตัวเองและตั้งคณะทำงานขึ้นมาตรวจสอบ หลังนายดอยธิเบศร์ ดัชนี บุตรชายและผู้ดูแลมรดกของนายถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศน์ศิลป์ปี พ.ศ.2544 และจิตรกรระดับโลก เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.บางชัน ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2560 ว่าภาพวาดของนายถวัลย์ที่เก็บไว้ที่บ้านพักในกรุงเทพมหานคร สูญหายไปนับร้อยภาพ คิดเป็นเงินมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท
พล.ต.ท.ชาญเทพ ระบุว่า ในตอนที่มีการแจ้งความนั้นอยู่ระหว่างการฟ้องร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกระหว่างนายดอยธิเบศวร์ กับภรรยาคนที่ 2 ของนายถวัลย์ ที่อยู่กินกันมากว่า 30 ปี ขณะที่ตอนนี้บุตรชายของนายถวัลย์ได้เป็นผู้จัดการมรดกแล้ว และมีการทวงถามความคืบหน้าทางคดีอีกครั้ง
พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น.
ขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าภาพหายไปกี่ภาพและต้องรอผลการตรวจพิสูจน์จากกองพิสูจน์หลักฐานภายในสัปดาห์นี้ โดยมีการเรียกผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำแล้ว รวมทั้งคนรับซื้อภาพที่อ้างว่าเป็นส่วนหนึ่งที่สูญหายไปด้วย ส่วนประเด็นคนในนำภาพไปขาย หรือคนนอกเข้ามาโจรกรรม ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุป โดยเรื่องนี้เกี่ยวพันกับเรื่องในครอบครัว
ด้านทนายความของ น.ส.ทิพย์ชาติ วรรณกูล หรือ ป้าอ๊อด ภรรยาคนที่ 2 ของนายถวัลย์ นำออกเอกสารชี้แจง 5 แผ่น มา ให้ผู้สื่อข่าว ใจความว่า 1. น.ส.ทิพย์ชาติ ไม่ได้จดทะเบียนกับนายถวัลย์ แต่ศาลฎีกาพิพากษารับรองสิทธิ์ในฐานะภรรยา 2. มีการใช้สิทธิ์ทางศาลเรียกร้องกรรมสิทธิ์ในส่วนของ น.ส.ทิพย์ชาติ ได้ข้อยุติ คือ พิพิธภัณฑ์บ้านดำ เนื้อที่ประมาณ 1,000 ไร่ ยกให้แก่นายดอยธิเบศร์ ส่วนบ้านที่กรุงเทพฯ 2 หลัง ยกให้ น.ส.ทิพย์ชาติ
ส่วนภาพวาดให้แบ่งกันในอัตราส่วน นายดอยธิเบศร์ 60 และ น.ส.ทิพย์ชาติ 40 เช่นเดียวกับเงินในบัญชี และสองฝ่ายตกลงว่าพิพิธภัณฑ์บ้านดำ บ้านกรุงเทพฯ 2 หลัง และผลงานภาพวาดศิลปะ ไม่ว่าฝ่ายใดครอบครองจะไม่มีการขาย เนื่องจากทรัพย์สินที่พิพาทยังไม่ได้รวบรวมและจัดทำร่วมกันตามกฎหมาย นอกจากนี้ยังชี้แจงถึงรายละเอียดเรื่องการเข้าจัดทำบัญชีภาพวาดที่กลายเป็นที่มาของการแจ้งความภาพวาดสูญหายอีกด้วย ขณะที่มีรายงานว่านายดอยธิเบศร์จะจัดการแถลงข่าวในวันศุกร์ที่ 21 ก.ย.นี้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง