วันนี้ (27 ก.ย.2561) ศาลจังหวัดชลบุรีอ่านคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้อง นายสุเทพ โภชนสมบูรณ์ อายุ 50 ปี วิศวกรบริษัทแห่งหนึ่ง จำเลยผู้ก่อเหตุยิงปืนใส่รถตู้ของกลุ่มวัยรุ่น จำเลยผู้ก่อเหตุยิงปืนใส่รถตู้ของกลุ่มวัยรุ่น เป็นเหตุให้นายนวพล ผึ่งผาย (ปอนด์) เสียชีวิต บริเวณสามแยกถนนอ่างศิลา ต.อ่างศิลา อ.เมือง จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 4 ก.พ.2560
คดีนี้ จำเลยให้การรับสารภาพในความผิดฐานพกพาอาวุธปืน ส่วนความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาจำเลยให้การต่อสู้อ้างเหตุป้องกัน ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พวกของผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นคนขับรถตู้ ได้จอดรถที่หน้าร้านขายของฝากกีดขวางทางออกรถของจำเลย จนเป็นเหตุให้มีปากเสียทะเลาะวิทวาทกัน
กระทั่งพวกของผู้ตายขับรถออกไป โดยไม่ได้มีการท้าทาย แต่จำเลยกลับขับรถตาม รถคู่กรณีทั้ง 2 คัน บีบแตรใส่ และปาดหน้าเสมือนเป็นการท้าทาย จนคู่กรณีเกิดบันดาลโทสะ และเข้ามาวิวาทกับจำเลย จากนั้นจำเลยได้ใช้อาวุธปืนซึ่งบรรจุกระสุนไว้ลงไปโต้ตอบกับคู่กรณี แต่เมื่อเห็นทีท่าไม่ดี ประกอบกับถูกผู้ตาย และพวกลงมือทำร้ายร่างกาย จนรู้สึกหวาดกลัวพร้อมกับใช้ปืนยิงเข้าใส่
ศาลเห็นว่า เหตุดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องเชื่อมโยงกันไม่ขาดตอน รวมแล้ว 5 นาทีเศษ จากพฤติการณ์เป็นกรณีที่ต่างฝ่ายสมัครใจวิวาทกัน จำเลยจะอ้างว่าเป็นการยิงเพื่อป้องกันตัวเองไม่ได้ รวมทั้งไม่ปรากฏว่าผู้ตายกับพวกทำร้ายร่างกาย มารดา ภรรยา และหลาน ที่มากับจำเลย ดังนั้นจะอ้างว่ายิงเพื่อป้องกันผู้อื่นไม่ได้ ศาลจึงพิพากษาว่าจำเลยกระทำผิดจริงตามฟ้อง
แต่เนื่องจากจำเลยไม่ได้มีจิตใจเหี้ยมโหดเยี่ยงโจรผู้ร้ายเพียงแต่ขาดสติยับยั้งชั่งใจในการควบคุมตัวเองและฝ่ายผู้ตายก็มีส่วนร่วมกระทำผิด จึงเห็นสมควรลงโทษจำเลยในสถานเบาฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาจำคุก 15 ปี ลดโทษ 1 ใน 3 คงจำคุก 10 ปี ฐานพาอาวุธปืน ปรับ 4,000 บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงปรับ 2,000 บาท และให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นเงิน 340,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตรา 7.5 ต่อปี
ขณะที่ นายสหภาพ วงศ์ธรรมเจริญ บิดาผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า พอใจคำตัดสินของศาล พร้อมกล่าวขอบคุณในความยุติธรรม ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ส่วนกลุ่มเพื่อนนายนวพล ซึ่งเป็นเยาวชน 3 คน มีความผิดในข้อหาต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน ร่วมกันทำร้ายเจ้าพนักงาน และร่วมกันทำร้ายผู้อื่น แต่รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่ารุมทำร้ายนายสุเทพ ศาลพิจารณาจำคุก 1 ปี 6 เดือน แต่เนื่องจากเห็นว่าผู้ต้องหารับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และยังเป็นเยาวชนโทษจำให้รอลงอาญาคุมประพฤติเป็นเวลา 2 ปี
ขณะที่ นายนิพนธ์ ทองสี คนขับรถตู้ ที่ถูกฟ้องในข้อหาจอดรถลักษณะกีดขวางการจราจร ศาลสั่งปรับ 1,000 บาท ส่วนคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ของนางสาวมณีพร ผึ่งผาย มารดาผู้เสียชีวิต ให้ถือว่า นางสาวมณีพร อยู่ในฐานะผู้ร้องขอให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนนั้น
ศาลสั่งให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทน 340,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 3.5 ต่อปี นับแต่วันยื่นคำร้องขอเป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จแก่ผู้ร้องซึ่งหลังคำพิพากษานายสุเทพได้ใช้หลักทรัพย์ เป็นเงินสด 670,000 บาท ยื่นประกันตัวและเตรียมยื่นอุทธรณ์ต่อศาลต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"อัยการ"สั่งฟ้องคดีวิศวะยิงวัยรุ่น 17 ปี-ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา