นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ระบุถึงปัญหาราคามะพร้าวตกต่ำว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบการใช้มะพร้าวของเอกชนที่ขออนุญาตนำเข้าตามกรอบความตกลงการค้าเสรีอาเซียน หรือ อาฟต้า โดยอัตราภาษีเป็นศูนย์ว่าเป็นไปตามเงื่อนไขที่ต้องใช้ในกิจการตัวเองหรือไม่ หรือนำไปจำหน่ายต่อ ซึ่งจากการตรวจสอบ 20 บริษัท พบว่ามี 10 บริษัทที่ไม่แจ้งปริมาณ หากชี้แจงไม่ได้จะขึ้นบัญชีดำทั้งหมด โดยไม่ออกหนังสือรับรองการนำเข้าชั่วคราวให้และเตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบบริษัทที่เหลือต่อไป
พร้อมยืนยันว่า ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2561 มะพร้าวนำเข้าทั้งหมด ลดลงร้อยละ 27 โดยนำเข้าภายใต้กรอบอาฟต้า 167,723 ตัน ซึ่งน่าจะส่งผลให้ราคามะพร้าวปรับตัวดีขึ้น แต่กลับพบว่าราคายังตกต่ำ จึงตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะมาจาก 2 สาเหตุคือ การลักลอบนำเข้าและการขออนุญาตนำเข้ามาใช้ไม่ตรงวัตถุประสงค์ ขณะที่การห้ามนำเข้ามะพร้าวไม่สามารถทำได้ เพราะขัดความตกลง WTO โดยมาตรการที่ทำได้และเหมาะสมคือมาตรการด้านสุขอนามัยพืช ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะต้องเสนอคณะกรรมการพืชน้ำมันที่จะประชุมในวันที่ 18 ต.ค.นี้
ขณะที่นายสมเกียรติ เหล่านาค นายกสมาคมชาวสวนมะพร้าว จ.ชุมพร ระบุว่า ราคาขณะนี้ต่ำกว่าต้นทุน โดยมะพร้าวแห้งผลใหญ่อยู่ที่ลูกละ 2 บาท ผลเล็กลูก 1 บาท โดยเห็นว่ามาตรการชะลอการนำเข้ามะพร้าว 3 เดือน ตั้งแต่สิงหาคม - ตุลาคม ไม่ได้ผล ซึ่งบริษัทแปรรูปมะพร้าวได้มีการขอนำเข้าภายใต้กรอบอาฟต้าจำนวนมาก เพื่อสต็อก ทำให้ไม่ซื้อผลผลิตจากชาวสวน
นายกสมาคมชาวสวนมะพร้าวจังหวัดชุมพร ยังขอให้รัฐหาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ โดยใช้มาตรการที่ไม่ขัดกับความตกลง WTO เช่น มาตรการด้านสุขอนามัยพืช เหมือนกรณีที่ใช้ลำไย