วันนี้ (18 ต.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะกรรมการสื่อสร้างสรรค์ กรณีถ้ำหลวง จ.เชียงราย เมื่อวานนี้ มี นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธาน โดยที่ประชุมได้รายงานสรุปผลดำเนินงานที่ผ่านมา พบว่า ขณะนี้มีผู้ผลิตภาพยนตร์ สารคดี และอนิเมชั่น ติดต่อเข้ามาขอสิทธิประโยชน์ในสมาชิก ทีมหมูป่าทั้ง 13 คน ทั้งสิ้น 22 โครงการ แบ่งเป็น ผู้ผลิตภาพยนตร์ต่างประเทศ 5 โครงการ ผู้ผลิตภายนตร์ในไทย 5 โครงการ สารคดีไทยและต่างประเทศ 10 โครงการ ที่เหลือเป็นส่วนของนักเขียน
นอกจากนี้ยังมีรายการโทรทัศน์ทั้งในไทยและต่างประเทศ ติดต่อขอให้ทีมหมูป่าออกรายการทั้งสิ้น 27 รายการ โดยคณะกรรมการฯ มีมติให้ผู้ผลิตรายการนั้นๆ ต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด การเดินทางต้องไม่กระทบเวลาเรียน และผู้ปกครองต้องแสดงความยินยอม
ส่วนการดำเนินการเรื่องสิทธิประโยชน์การนำเรื่องราวทีมหมูป่าไปสร้างภาพยนตร์และสารคดีนั้น นายศิริศักดิ์ คชพัชรินทร์ กรรมการสื่อสร้างสรรค์ กรณีถ้ำหลวงฯ ระบุว่า คณะกรรมการฯ มีมติให้ผู้ผลิตยื่นขอสิทธิการถ่ายทำตั้งแต่วันที่ 15-30 พ.ย.นี้ โดยผู้ผลิตต่างประเทศให้ยื่นขอกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ส่วนผู้ผลิตในไทย ยื่นขอกับกระทรวงวัฒนธรรม
สำหรับการขอสิทธิประโยชน์ในทีมหมูป่านั้น หากเป็นข้อมูลสาธารณะที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ ผู้ผลิตก็สามารถดำเนินการผลิตได้ทันที แต่ผู้ที่ได้สิทธิ์จะสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของตัวบุคคล ซึ่งจะต้องพิจารณาจากผลประโยชน์ที่จะได้รับตอบแทนควบคู่ไปด้วย ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่จำเป็นที่ผู้ได้รับสิทธิ์จะมีเพียงรายเดียว แต่จะพิจารณาให้เกิดความเท่าเทียม เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันและภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศ
ส่วนกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวว่า 13 หมูป่า ได้ตกลงสิทธิประโยชน์การสร้างภาพยนตร์กับยูนิเวอร์แซล สตูดิโอนั้น ยืนยันว่ายังไม่มีการคุยรายละเอียดกัน คณะกรรมการฯ เน้นย้ำว่า การเข้ามาดูแลสิทธิประโยชน์นั้น ต้องได้รับความยินยอมจากทีมหมูป่าทั้ง 13 คน รวมถึงผู้ปกครอง ซึ่งทุกคนทราบดีถึงบทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการฯ ที่จะช่วยกลั่นกรองเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้