วันนี้(23 ต.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา10.00 น.ที่ผ่านมา มีผู้โดยสารที่เดินทางไปที่สนาบินสุวรรณภูมิหลายคน ต่างโพสต์ข้อความควันไฟสีดำพวยพุ่ง จากด้านนอกอาคารผู้โดยสารขาออกสนามบินสุวรรณภูมิ สร้างความตกอกตกใจให้กับผู้ที่เดินทางไปใช้บริการ
ต่อมาผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสออนไลน์ สอบถามไปที่ตัวแทนท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับรายงานจากว่าในช่วงเวลา 09.43-09.53 น.ที่ผ่านมาเกิดเหตุไฟฟ้าในสนามบินสุวรรณภูมิดับ แต่ไม่ได้กระทบต่อการให้บริการภายใน เพราะมีระบบการใช้ฟสำรอง โดยสามารถแก้ปัญหาได้ภายใน 10 นาที
สาเหตุเกิดจากช่วงที่เข้าซ่อมแซมเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ของการไฟฟ้านครหลวง พบว่ามีการขัดข้องขึ้นเครื่องสำรองไฟฟ้าทำงาน ที่ระบบไฟฟ้าภายในสนามบินสุวรรณภูมิไฟดับ และทำให้มีกลุ่มควันดำจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าขณะนี้ไม่กระทบกับระบบไอทีของสนามบิน และระบบไฟฟ้าภายในสนามบินโดยสามารถใช้งานได้ตามปกติแล้ว
ทั้งนี้เฟชบุ๊ก Sopon Onkgara โพสต์ข้อความว่า สนามบินสุวรรณภูมิไฟดับบางจุด บันไดเลื่อนหยุดชะงัก จุดเช็คหนังสือทางไทยเดี้ยง
ภาพ:เฟซบุ๊ก Sopon Onkgara
กระทบระบบข้อมูล ตม.
ด้านนายอนันต์ หวังชิงชัย รองผู้อำนวยการท่าอากาศสานสุวรรณภูมิ สายบำรุงรักษา กล่าวเพิ่มเติมว่า
เมื่อเวลา 09.43 น. ที่สนามบินสุวรณณภูมิ ถึงวงรอบ ต้องมีการทำการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน ซึ่งทำเป็นประจำทุกรอบโดยการไฟฟ้านครหลวง แต่เกิดปัญหากระทบกับหม้อแปลง 1 ตัว ที่ส่งผลให้เกิดไฟฟ้าดับในส่วนอาคารผู้โดยสาร กับอาคารเทียบเครื่องบิน เป็นเวลา 10 นาที
หลังจากนั้นตามขั้นตอนเมื่อไฟดับ ตามระบบเครื่องกำเนิดไฟฟ้าจะทำงานขึ้น ส่งผลให้ไฟฟ้ากลับมาติดในเวลา 09.53 นาฬิกา แต่อาจส่งผลให้เกิดกลุ่มควัน ทำให้มีหลายคนที่พบเห็นกลุ่มหวันอาจเข้าใจผิดว่ามีเพลิงไหม้ ซึ่งยืนยันว่าไม่ใช่แต่เป็นกลุ่มควันจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้า
สำหรับผลกระทบที่เกิดขึ้น คือ อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ หยุดทำงานเป็นเวลา 10 นาที แต่เมื่อไฟฟ้าติดก็สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ เท่าที่ได้รับรายงานว่ายังมีบางระบบที่จะมีการรีเซ็ตใหม่และส่งผลกระทบ เช่น ระบบสายพานลำเลียงกระเป๋าขาดเข้า ซึ่งติดขัดดอยู่ช่วงหนึ่ง แต่กลับมาทำงานได้ 11.00น. ส่วนอีกระบบ คือ ระบบข้อมูลของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือ ตม ที่ยังมีขัดข้อง และต้องใช้ระบบ manual ไปก่อน เพราะระบบ ของauto channel ที่ใช้อำนวยความสะดวกของผู้โดยสารชาวไทย และจีน ยังติดขัด จึงมีผู้โดยสารสะสม
ภาพ:เฟซบุ๊ก Sopon Onkgara