องค์การเภสัชกรรม พัฒนาและผลิตยาต้านไวรัสเอดส์ เอฟฟาไวเรนส์ 600 มิลลิกรัม ซึ่งเป็นรายการแรกของประเทศไทย และเป็นประเทศเดียวในกลุ่มอาเซียนที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล WHO PQ จากองค์การอนามัยโลก และได้ขึ้นบัญชียา เพื่อให้องค์กรสาธารณสุขนานาชาติจัดซื้อยาจากผู้ผลิต ซึ่งกองทุนโลกยูนิเซฟ ทำหน้าที่จัดซื้อยาให้กับประเทศสมาชิกหรือประเทศด้อยโอกาส โดยมี 20 ประเทศทั่วโลกสามารถซื้อได้
การรับรองดังกล่าวเป็นการยกระดับมาตรฐานยาในระดับสากล สร้างความเชื่อมั่นในประสิทธิภาพ ความปลอดภัย มีศักยภาพในการแข่งขันทั้งในและต่างประเทศ เป็นตัวแรกที่ให้กับผู้ติดเชื้อเอชไอวีตั้งแต่ตรวจพบเชื้อในร่างกาย ซึ่งในประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อประมาณ 80,000 คน
องค์การเภสัชกรรมใช้เวลากว่า 16 ปี ในการพัฒนายาต้านไวรัสเอดส์ ช่วยให้ผู้ป่วยเข้าถึงยามีคุณภาพ ราคาถูกเพียงกระปุกละ 180 บาท จากเดิมที่ต้องซื้อในราคากว่า 1,000 บาท การได้รับการรับรองมาตรฐานครั้งนี้ เป็นโอกาสที่องค์การเภสัชกรรมจะจำหน่ายยาได้มากขึ้น เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศ พร้อมยืนยันว่ากำลังการผลิตเพียงพอต่อการใช้ในประเทศและส่งออกในปี 2561 สามารถผลิตยาต้านไวรัสเอดส์ได้ 42 ล้านเม็ด หรือร้อยละ 2.5 ของกำลังการผลิตยาในโรงงานทั้งหมด 4,000 ล้านเม็ด
ในอนาคตองค์การเภสัชกรรมเตรียมส่งยาต้านวัณโรคและยารักษาโรคมาลาเรีย เข้าสู่การรับรองด้วยจากองค์การอนามัยโลก ขณะเดียวกันอยู่ระหว่างการพัฒนาโรงงานผลิตยารังสิตเฟส 2 มูลค่า 5,600 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในเดือน ม.ค.ปีหน้า เพื่อเพิ่มศักยภาพในผลิตยาสู่การแข่งขันทั้งในและต่างประเทศ