วันนี้ (7 พ.ย.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานจัดอันดับทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ หรือ Education First (EF) ที่เมืองลูเซิร์น ในสวิตเซอร์แลนด์ รายงานการจัดอันดับทักษะการใช้ภาษาอังกฤษในประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก 88 ประเทศทั่วโลก พบว่า ไทยอยู่ในอันดับที่ 64 จาก 88 ประเทศทั่วโลก และเป็นอันดับ 16 จาก 21 ประเทศในเอเชีย มีคะแนนทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ 48.54 จาก 100 คะแนน ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ Low Proficiency หรือ ในเกณฑ์ทักษะต่ำ ขณะที่ปีที่ผ่านมาไทยได้คะแนน 49.78
ปี 2011 อยู่อันดับที่ 42 Very Low Proficiency จาก 44 ประเทศ
ปี 2012 อยู่อันดับที่ 53 Very Low Proficiency จาก 54 ประเทศ
ปี 2013 อยู่อันดับที่ 55 Very Low Proficiency จาก 60 ประเทศ
ปี 2014 อยู่อันดับที่ 48 Very Low Proficiency จาก 63 ประเทศ
ปี 2015 อยู่อันดับที่ 62 Very Low Proficiency จาก 70 ประเทศ
ปี 2016 อยู่อันดับที่ 56 Very Low Proficiency จาก 72 ประเทศ
ปี 2017 อยู่อันดับที่ 53 Low Proficiency จาก 80 ประเทศ
ปี 2018 อยู่อันดับที่ 62 Low Proficiency จาก 88 ประเทศ
ขณะที่สถิติทักษะการใช้ภาษาอังกฤษในกลุ่มประเทศอาเซียน ไทยอยู่ในอันดับที่ 6 จาก 8 ประเทศ ตามหลังสิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เวียดนาม และอินโดนีเซีย ซึ่งอยู่ในอันดับเดิมมานาน 8 ปี แม้ว่าไทยจะยังคงอันดับเดิมแต่คะแนนทักษะในปี 2017 และ 2018 นั้นมีการขยับตัวเพิ่มสูงขึ้นมาอยู่ในเกณฑ์ทักษะต่ำ ซึ่งก่อนหน้านี้ 6 ปี ไทยอยู่ในเกณฑ์ทักษะต่ำมากมาโดยตลอด
ส่วนประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก แต่มีความชำนาญในการใช้ทักษะภาษาอังกฤษมากที่สุด 5 อันดับแรก คือ ประเทศสวีเดน ที่มีคะแนนอยู่ที่ 70.72 ตามด้วยเนเธอร์แลนด์ 70.31 คะแนน สิงคโปร์ 68.63 คะแนน นอร์เวย์ 68.38 คะแนน และเดนมาร์ก 67.34 คะแนน โดย 5 ประเทศที่ได้คะแนนน้อยที่สุด คือ อัฟกานิสถาน 43.44 คะแนน กัมพูชา 42.86 คะแนน อุซเบกิสถาน 42.53 คะแนน อิรัก 40.82 คะแนน และลิเบีย 39.64 คะแนน
นอกจากนี้ ยังมีการจัดอันดับเมืองที่ผู้คนมีทักษะในการใช้ภาษาอังกฤษที่ดี 59 เมือง โดยอันดับ 1 คือ อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ 72.14 คะแนน ตามมาด้วยสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน 71.85 คะแนน และนิวเดลี ประเทศอินเดีย 69.96 คะแนน ส่วนกรุงเทพมหานคร อยู่ในอันดับที่ 52 ได้คะแนน 50.93
สำหรับผลจากคะแนนสอบจะนำมาจัดเป็นทักษะ 5 ระดับ คือ สูงมาก สูง ปานกลาง ต่ำ และต่ำมาก ทั้งนี้ การทดสอบดังกล่าวเป็นการทดสอบแบบออนไลน์สำหรับคนทั่วไป โดยวัดผลจากแบบทดสอบทักษะการฟังและการอ่าน ซึ่ง EF ระบุว่า ภาพรวมคะแนนที่ออกมานี้ อาจไม่ได้เข้าถึงกลุ่มคนยากไร้หรือคนที่ไม่มีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต