การพิสูจน์ข้อเท็จจริงการกระทำของสูตินรีแพทย์ในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ ว่าเป็นการล่วงละเมิด หรือสมยอม หรือเป็นขั้นตอนปกติ ไม่ใช่เพียงแค่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ที่เข้ามาพิสูจน์ฝ่ายแพทย์ แต่ฝ่ายผู้เสียหายก็ทยอยให้ข้อมูลเพิ่มน้ำหนักทางคดีมากขึ้น
อดีตคนไข้ของสูตินรีแพทย์ดังกล่าว เชื่อว่าผู้หญิงที่แจ้งความจะเป็นผู้เสียหายจริง และพร้อมที่จะเป็นพยานให้ผู้เสียหาย
ถ้าเราไม่โดนกับตัวคงพูดไม่ได้ และคนที่ออกมาพูด 40-50 คน ถ้าเขาไม่โดนกระทำจริง จะพูดถูกหรอ เขาพูดคล้ายๆ กันหมดว่าหมอทำอะไรบ้าง ถ้าทำไม่จริงใครจะกล้าเอาชีวิตไปเสี่ยงคุก เสี่ยงตะราง
ขณะที่แพทย์คนดังกล่าว ยืนยันว่าได้ตรวจรักษาตามขั้นตอนและมีผู้ช่วยอยู่ด้วยตลอด โดยให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ยอมรับว่าโอนเงิน 300,000 บาทไปให้ฝ่ายหญิงจริง ซึ่งไม่ไช่เป็นค่าชดใช้ คิดเพียงว่าจะจบเรื่องเท่านั้น
การตรวจปกติ บางทีจะกดหน้าท้องคนไข้นานนิดนึง ส่วนเรื่องรอยแผลตรงขา ผมก็ยังไม่เห็นร่องรอย
ด้านนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ลงพื้นที่ไปตรวจสอบคลินิกแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ เมื่อวานนี้ (20 พ.ย.) โดยยอมรับว่า มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการล่วงละเมิดทางเพศภายในคลินิก แต่ต้องเป็นการสมยอม และแพทย์ยอมรับว่าพอใจผู้เสียหาย
ขณะนี้ตำรวจ สภ.เมืองนครสวรรค์ เร่งรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ยืนยันว่าจะตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนสรุปสำนวนส่งฟ้องดำเนินคดีต่อไป และคดีนี้ไม่อยู่ในกฎเกณฑ์ที่จะโอนสำนวนไปให้กองปราบปรามดูแล แต่หากจะโอนจริงต้องให้ผู้บังคับบัญชาเป็นคนสั่งการ ส่วนการสอบวินัยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการสอบสวนและตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการที่สาธารณสุขจังหวัดนครสวรรค์