วันนี้ (4 ธ.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศงดแจกถุงพลาสติกสำหรับใส่สินค้า เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมไทย โดยห้างร้านบางแห่งเตรียมจัดแคมเปญอย่างต่อเนื่อง โดยจะงดแจกถุงพลาสติกทุกวันที่ 4 ของเดือนเพื่อช่วยลดปัญหาขยะพลาสติก
ขณะที่ไทยพีบีเอสออนไลน์ได้ทำแบบสอบถามออนไลน์ผ่านทางเฟซบุ๊กถึงความพร้อมในการเลิกใช้ถุงพลาสติกสำหรับใส่สินค้า โดยมีผู้ร่วมโหวต 1,181 คน พบว่า ประชาชน 990 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 84 พร้อมบอกลาถุงพลาสติก ส่วนอีก 191 คน หรือร้อยละ 16 ยังไม่พร้อมเลิกใช้ถุงพลาสติก
สำหรับความคิดเห็นของผู้ที่พร้อมเลิกใช้ถุงพลาสติกส่วนใหญ่ ระบุว่า เป็นแความคิดที่ดีและควรมีการดำเนินการเรื่องนี้นานแล้ว เนื่องจากในต่างประเทศอย่างสหรัฐอเมริกาก็งดแจกถุงพลาสติกใส่สินค้าเช่นกัน และควรจะงดแจกถุงพลาสติกอย่างต่อเนื่อง เป็นมาตรการระยะยาวเพื่อให้การลดขยะพลาสติกเห็นผลได้อย่างชัดเจน
นอกจากนี้ผู้ที่พร้อมบอกลาถุงพลาสติกยังได้เสนอให้ห้างร้านแจกถุงผ้าแทนถุงพลาสติกเพื่อให้เกิดความสะดวกสบายแก่ผู้บริโภคด้วย
ส่วนผู้ที่ยังไม่พร้อมนั้น ระบุว่า ในกรณีใส่ของร้อนหรือของสด ถุงพลาสติกก็ยังจำเป็นอยู่ โดยเฉพาะประชาชนที่ไม่มีรถส่วนตัวการนำสินค้ากลับบ้านก็อาจจะไม่สะดวกหากไม่ใส่ถุงพลาสติก และถุงพลาสติกนอกจากใส่สินค้าจากห้างร้านแล้ว เมื่อกลับไปที่บ้านก็สามารถนำมาใช้ใหม่อีกครั้งได้ ทั้งการใส่สินค้าอื่นๆ หรือนำมาเป็นถุงขยะ โดยมองว่าการไม่แจกถุงพลาสติกเช่นนี้จะเป็นการช่วยลดต้นทุนผู้ค้าและเพิ่มภาระให้ผู้บริโภค
ทั้งนี้ ไทยพีบีเอสออนไลน์ยังได้ทำแบบสอบถามเกี่ยวกับสิ่งที่คุณจะนำมาใช้แทนถุงพลาสติก โดยพบว่า ประชาชนจากทั้งหมด 129 คน เลือกใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติก ร้อยละ 74 รองลงมา คือ กระเป๋า, เป้ ร้อยละ 20 รถเข็นคันเล็ก ร้อยละ 3 และอื่นๆ ร้อยละ 2
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษระบุว่า ปัญหาขยะพลาสติกในประเทศไทยยังคงเป็นปัญหาใหญ่ เนื่องจากมีการใช้ถุงพลาสติกถึงฃปีละ 45,000 ล้านใบ หรือคนไทยใช้ถุงพลาสติก เฉลี่ยคนละ 3 ใบต่อวัน โดยถุงพลาสติก 1 ใบนั้นต้องใช้เวลาในการย่อยสลายนาน 450 ปี
ภาพ : เฟซบุ๊ก thon thamrongnawasawat
ภาพ : เฟซบุ๊ก thon thamrongnawasawat
เมื่อมีการสะสมของขยะเป็นจำนวนมากจึงทำให้ขยะตกค้างในสิ่งแวดล้อมและไหลลงสู่ทะเลส่งผลให้สัตว์น้ำตายและพิการจำนวนมาก ซึ่งหากมนุษย์สามารถลดขยะพลาสติกบนบกได้ก็อาจจะสามารถช่วยชีวิตสัตว์ในท้องทะเลได้อีกหลายร้อยชีวิต