การประท้วงในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เริ่มคุกรุ่นมาตั้งแต่เมื่อวานนี้ (7 ธ.ค) เมื่อกลุ่มประท้วงเกาะเกี่ยวแขนชุมนุมเผชิญหน้ากับตำรวจปราบจลาจล ซึ่งตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยที่จัตุรัสในย่านใจกลางเมือง โดยผู้ประท้วงพากันส่งเสียงโห่ไล่ตำรวจและจุดไฟเผาเครื่องกีดขวาง แต่ไม่มีการปะทะกัน ท่ามกลางความวิตกว่าการประท้วงใหญ่ของกลุ่มเสื้อกั๊กเหลืองในวันนี้ (8 ธ.ค.) จะเกิดเหตุจลาจลรุนแรงเหมือนสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ขณะที่ในเมืองแกลร์มง-แฟร็อง ทางภาคกลางของฝรั่งเศส มีกลุ่มผู้ชุมนุมออกมาประท้วงต่อต้านรัฐบาล ตำรวจต้องเข้าควบคุมสถานการณ์และยิงแก๊สน้ำตาสลายการชุมนุม
นอกจากนี้ นักเรียนมัธยมจำนวนมากยังพากันเดินขบวนไปตามท้องถนนของกรุงปารีส เรียกร้องให้ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ลาออก จากกระแสความไม่พอใจที่มีการเปลี่ยนแปลงระบบการคัดเลือกนักเรียนเข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย แต่การชุมนุมเป็นไปอย่างสงบ
ขณะที่ทางการฝรั่งเศสได้เตรียมมาตรการรักษาความปลอดภัยเป็นพิเศษ เพื่อรับมือการประท้วงของกลุ่มเสื้อกั๊กเหลืองในวันนี้ โดยระดมตำรวจ 89,000 นายออกไปรักษาความปลอดภัยทั่วประเทศ ในจำนวนนี้ 8,000 นายตรึงกำลังอยู่ในกรุงปารีส พร้อมปิดทำการสถานที่ท่องเที่ยวของกรุงปารีส รวมทั้งติดตั้งเกราะป้องกันให้กับร้านค้า
ทั้งนี้ ความรุนแรงจากเหตุจลาจลในกรุงปารีสเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้นักท่องเที่ยวไม่มั่นใจในความปลอดภัย ซึ่งส่วนใหญ่บอกว่าจะอยู่แต่ในที่พัก หรือไม่ก็เดินทางออกจากกรุงปารีส